ปูเสื่อรอมูลค่าตลาดหุ้นพุ่ง 30 ล้านล้าน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ปูเสื่อรอมูลค่าตลาดหุ้นพุ่ง 30 ล้านล้าน

Date Time: 1 ก.พ. 2562 09:55 น.

Summary

  • นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยแผนการดำเนินงานระยะยาวของตลาดหุ้นไทย จนถึงปี 66 จะมีโอกาสขึ้นไปเทียบเท่ากับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

Latest

JAS ฝ่าอาถรรพ์  ใครถือสิทธิ “พรีเมียร์ลีก” ขาดทุนทุกราย จับตาดีลกับ AIS อาจเป็นทางรอด

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยแผนการดำเนินงานระยะยาวของตลาดหุ้นไทย จนถึงปี 66 จะมีโอกาสขึ้นไปเทียบเท่ากับตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยตั้งเป้าหมายมีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) เฉลี่ยอยู่ที่ 30 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 16.6 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 150% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากปัจจุบันอยู่ที่ 108% ของจีดีพี และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 95,000 ล้านบาท จากเดือน ม.ค.62 อยู่ที่ 47,421.36 ล้านบาท

ขณะที่แผนกลยุทธ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระยะ 3 ปี ตั้งแต่ปี 62-64 จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและต่อยอดธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ผ่าน 4 กลยุทธ์ ได้แก่ ขยายขอบเขตการทำธุรกิจ ด้วยการขยายฐานผู้ลงทุนไปยังจังหวัดเมืองรอง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (ดีซีเอ) ผ่านการลงทุนหุ้นและกองทุนรวม ให้ความรู้การลงทุนรองรับการเกษียณอายุ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพัฒนาเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนแบบครบวงจร

“เราจะก้าวสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบด้วยการสร้างแพลตฟอร์มแบบเปิดที่ครบวงจร ต่อยอดการเข้าถึงกองทุนรวม เพื่อการซื้อขายกองทุนข้ามประเทศ การชำระเงินระหว่างบริษัทหลักทรัพย์และผู้ลงทุนแบบข้ามธนาคาร และพัฒนาบริการเพิ่มเติม เพื่อ ให้การเปิดบัญชีเป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ รวมถึงเชื่อมโยงต่างประเทศเพื่อต่อยอดธุรกิจให้ตลาดทุน และยังเตรียมสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ตลาดทุนไทย”

นอกจากนี้ ยังมีแนวทางจะลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการและกฎเกณฑ์ โดยสร้างแพลตฟอร์มใหม่ เพื่อให้บริการแบบครบวงจร เริ่มจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งด้านรับหลักทรัพย์ การดูแลบริการหลังการซื้อขาย การพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และจะขยายสู่ผู้ร่วมตลาดอื่นๆในอนาคต เพื่อลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน เกิดความคล่องตัว ลดค่าใช้จ่ายของอุตสาหกรรมตลาดทุนทั้งระบบ ขณะเดียวกันจะปฏิรูปกฎเกณฑ์และขั้นตอนการทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อลดอุปสรรคการดำเนินธุรกิจ ปรับรูปแบบธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มในตลาดทุน โดยจัดกลุ่มธุรกิจเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจหลัก ธุรกิจใหม่และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาตลาดทุนระยะยาว.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ