ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 พ.ย.61 ปิดที่ 1,668.52 จุด ลบ 13.21 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 34,753.54 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,840.66 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิ 2,193.29 ล้านบาท, พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 522.78 ล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 3,511.17 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 49.75 บาท ลบ 1 บาท, IVLปิด 55.25 บาท ลบ 1.75 บาท, PTTEP ปิด 138 บาท ลบ 2 บาท, CPALL ปิด 68.25 บาท บวก 0.25 บาท และ NER ปิด 2.32 บาท บวก 0.22บาท
ตลาดปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศถูกถ่วงด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10Y US Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่ากดดันการซื้อคืนของต่างชาติ
มีข่าวดี “ฤทธี กิจพิพิธ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สแกน อินเตอร์ หรือ SCN เผยบริษัทพร้อมเดินหน้าโครงการรถเมล์ NGV ของ ขสมก. ภายใต้ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO หลังศาลปกครองสูงสุดฯ มีคำสั่งปลดล็อก ส่งผลบวกต่อบริษัทให้รับรู้รายได้จากการส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท
โดยจะแล้วเสร็จภายใน ก.พ.62 วางเป้าหมายส่งมอบให้ได้อย่างน้อย 200 คัน ก่อนสิ้นปีนี้ พร้อมรับรู้รายได้จากการดูแลรถเมล์เอ็นจีวี อีก 10 ปีช่วยสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัทอีกด้วย!!!!!!
แบงก์ชาติประกาศเกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย ช่วยปลดล็อก back log มูลค่า 3.32 แสนล้านบาท โอนได้ปกติ เป็นบวกต่อกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ปิดท้าย มีบทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุเกณฑ์แบงก์ชาติที่ผ่อนคลายความกังวล โดยเฉพาะประเด็นที่ให้ผู้จะซื้อจะขาย ที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 15 ต.ค.61 ไม่ต้องถูกบังคับให้ใช้เกณฑ์ใหม่ ทำให้ back log หรือยอดขายรอโอน ที่มีอยู่ราว 3.32 แสนล้านบาท เมื่อสิ้นไตรมาส 2/61 ไม่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งการเลื่อนวันมีผลบังคับใช้เป็น วันที่ 1 เม.ย.62 จะช่วยให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มีเวลาในการเร่งขายที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น
ประเด็นที่คลายกังวลอีกเรื่อง คือ คนที่จะผ่อนบ้าน 2 หลัง ถ้าหลังแรก ผ่อนไป 3 ปีแล้ว หลังที่ 2 สามารถซื้อได้ โดยวางเงินดาวน์เพียง 10% ถือว่าช่วยผ่อนปรน สำหรับผู้ที่อยากมีบ้านหลังที่สอง
เป็นบวกต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลงทุน เน้นผู้ประกอบการแนวราบ จะปลอดภัยกว่า รวมทั้งหุ้นที่จ่ายปันผลสูง เช่น LH, QH และ SPALI!!
อินเด็กซ์ 51