เด้งรับสงครามค้าคลี่คลาย!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เด้งรับสงครามค้าคลี่คลาย!!

Date Time: 3 พ.ย. 2561 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 พ.ย.61 ปิด 1,681.84 จุด บวก 14.29 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 60,886.66 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 611.35 ล้านบาท

Latest

JAS ฝ่าอาถรรพ์  ใครถือสิทธิ “พรีเมียร์ลีก” ขาดทุนทุกราย จับตาดีลกับ AIS อาจเป็นทางรอด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 พ.ย.61 ปิด 1,681.84 จุด บวก 14.29 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 60,886.66 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 611.35 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิด 189 บาท ลบ 7.50 บาท, PTT ปิด 49.75 บาท บวก 0.25 บาท, PTTEP ปิด 141 บาท บวก 3 บาท, CPALL ปิด 68.50 บาท บวก 0.50 บาท และ KBANK ปิด 204 บาท บวก 1 บาท

ตลาดปรับตัวขึ้น รับ Sentiment บวกจากสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มคลี่คลายมากขึ้น

บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ในชื่อ “Welcome November...

แรงขายต่างชาติเบาลง เม็ดเงิน LTF หนุน” ระบุว่า เข้าสู่เดือน พ.ย.โค้งสุดท้ายของปีกันแล้ว ตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร?

ต้องดู Fund Flow จากต่างชาติ พบว่า ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อหุ้นในภูมิภาคเป็นวันแรก ยกเว้นไทยที่ยังถูกขายอยู่ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ขายน้อยลง โดยหุ้นไทยถูกขายต่อเนื่องกัน 21 วันทำการแล้ว

โดยภาพรวมตลาดยังกังวลต่อผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน และการเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น กดดันตลาดหุ้นให้ปรับตัวลงหนัก ขณะเดียวกัน Fund Flow ได้ไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคสูงสุดในปีนี้กว่า 1.14 หมื่นล้านเหรียญ และเป็นการขายสุทธิทุกประเทศ

โดยตลาดหุ้นไทยเดือน ต.ค. เป็นเดือนที่ถูกขายสุทธิมากสุดของปีนี้กว่า 1.96 พันล้านเหรียญ หรือ 6.43 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปีมา ยอดขายรวมของนักลงทุนต่างชาติสูงถึง 2.76 แสนล้านบาท

สำหรับเดือน พ.ย.61 นี้ แม้สถิติในอดีตย้อนหลัง 10 ปี พบว่าต่างชาติมักขายหุ้นไทยมากสุดในเดือน พ.ย. เฉลี่ย 1.4 หมื่นล้านบาท แต่ในเดือน ต.ค.ปีนี้ ต่างชาติขายหุ้นไทยหนักสุดของปีนี้ไปแล้วกดดันให้ตลาดหุ้นไทยปรับฐานแรงกว่า 5% แรงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นมา

ทำให้ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่า ในเดือน พ.ย.นี้ แรงขายต่างชาติน่าจะเบาบางลง และเห็นการสลับมาซื้อบ้าง ประกอบกับเชื่อว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศ น่าจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยพยุงตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากช่วงท้ายปีจะมีเม็ดเงิน LTF ทยอยเข้ามาหนุนตลาดหุ้น คิดเป็นราว 59.7% ของเม็ดเงินซื้อ LTF ทั้งปี โดยเดือน พ.ย. ราว 12.7% และเดือน ธ.ค. ราว47%

เมื่อเทียบกับปี 60 ที่มียอดซื้อทั้งปี 6.45 หมื่นล้านบาท ทำให้คาดว่าน่าจะมีเม็ดเงิน LTF เข้ามาหนุนตลาดหุ้นช่วงที่เหลือของปีราว 3.85หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับสถิติย้อนหลัง 10 ปี ที่ใน 2 เดือนสุดท้าย SETIndex มักปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.44% และให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 7 ใน 10 ปี!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ