มีบทวิเคราะห์ หุ้นกลุ่มเช่าซื้อจาก บล.เอเซียพลัส ที่น่าสนใจ ซึ่งระบุว่า ไม่ง่ายอีกต่อไป สำหรับการทำธุรกิจ Non bank ทั้ง ลีสซิ่ง แฟคตอริ่ง เช่าซื้อ เพราะ รมว.คลังเห็นชอบ พ.ร.บ.กำกับดูแล Non bank แล้ว และจะตั้งหน่วยงานใหม่มากำกับดูแล
หลักการของ พ.ร.บ.นี้ คือ คุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอาเปรียบ จากการคิดดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าปกติ ทั้งค่าธรรมเนียมติดตามทวงหนี้ ค่าธรรมเนียมโอนเล่มทะเบียนรถ การสืบทรัพย์ เป็นต้น
ฝ่ายวิจัย มองว่า หลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น เป็นความท้าทายของผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อ โดยประเมินว่า ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ อย่าง TK, S11 น่ากังวลมากสุด เพราะเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูง
ส่วนกลุ่มแฟคตอริ่ง อย่าง LIT, IFS ซึ่งเก็บดอกเบี้ยต่ำกว่า 15% มาก คงไม่กระทบ แต่อาจกระทบเรื่องค่าธรรมเนียม
ด้านผู้ให้สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล อย่าง KTC, AEONTS กระทบน้อย เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของแบงก์ชาติอยู่แล้ว
ส่วน MTLS แม้จะกำหนดดอกเบี้ยเฉลี่ยไม่เกิน 15% และจัดเก็บค่าธรรมเนียมระดับต่ำอยู่แล้ว แต่มีโครงสร้างธุรกิจเป็น Non bank เต็มตัว ในอนาคตจึงอาจมีความเสี่ยงหากมีหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น
ขณะที่ SAWAD นั้น การเข้าลงทุนใน BFIT ซึ่งอยู่ภายใต้การ กำกับดูแลของแบงก์ชาติ ถือว่าเดินมาถูกทาง เพราะช่วยลดความกังวลต่อหลักเกณฑ์ต่างๆไปได้มาก
จากปัจจัยหลายอย่างที่กลุ่มเช่าซื้อต้องเผชิญ ทั้งหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น, กฎหมายเช่าซื้อที่เปลี่ยนการคำนวณรายได้เบี้ยปรับใหม่, การเตรียมรองรับเกณฑ์ IFRS9 ที่จะกระทบค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ในปีนี้
จึงปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ เป็น “น้อยกว่าตลาด” จากเดิม “เท่าตลาด” โดยเลือก SAWAD และ JMT เป็นหุ้น top picks!!
อินเด็กซ์ 51