นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์ฉบับแก้ไขใหม่ ฉบับที่ 5 พ.ศ.2559 ซึ่งได้เริ่มใช้ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาว่า เน้นให้ความคุ้มครองผู้ลงทุนจากการกระทำที่ไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์มากขึ้น ทั้งเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือบิดเบือน การใช้ข้อมูลภายในและการสร้างราคาหลักทรัพย์ รวมถึงการเพิ่มมาตรการลงโทษทางแพ่ง ซึ่งจะทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ทำความผิดมีความรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯจะช่วยให้การกำกับดูแลตลาดทุนดำเนินการอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ซึ่งเมื่อดำเนินการได้อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ลงทุนได้รับความคุ้มครองและสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างเชื่อมั่น
“การกระทำความผิดโดยการใช้ข้อมูลภายใน หรือข้อมูลที่มีสาระสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคา หรือการตัดสินใจลงทุนและยังไม่เปิดเผยกับประชาชน ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่ฉบับที่ 5 นี้ ได้ขยายความให้ครอบคลุมมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ผู้ทำผิดกฎหมายในเรื่องดังกล่าวจะจำกัดอยู่ที่คนวงใน ซึ่งได้แก่ กรรมการ และผู้บริหารเป็นหลัก แต่ปัจจุบันได้ครอบคลุมไปถึงผู้ที่ได้รับข้อมูลนั้นๆมาอีกทอดหนึ่งด้วย ส่วนการลงโทษทางแพ่งตามกฎหมายใหม่นั้น จะมีทั้งการจ่ายค่าปรับทางแพ่ง ซึ่งสูงสุดคือ 2 เท่าของผลประโยชน์และยังต้องถูกเรียกคืนประโยชน์หรือกำไรจากการใช้ข้อมูลภายในที่ได้ไปอีกด้วย”
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 6-8 ต.ค.ที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก.ล.ต. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ร่วมมือกัน เพื่อจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทางการเงิน แก่นิสิต นักศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เนื่องจากปัจจุบันอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อกิจกรรมประจำวัน จึงจำเป็นต้องให้ความรู้ด้านการป้องกันภัยไซเบอร์.