กบน.กระทุ้งภาคขนส่งที่เคยสัญญา หากน้ำมันดีเซลปรับลดราคา จะยอมลดค่าขนส่งให้กับประชาชน เพราะกบน.มีมติลดราคาน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 50 สตางค์ เหลือ 32 บาท มีผล 15 พ.ค. ลดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือนนี้ สะท้อนราคาตลาดโลก สบช่องพยุงสถานะกองทุนน้ำมันเหลือติดลบ 7.9 หมื่นล้านจาก 1.1 แสนล้านก่อนหน้า
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงอีกลิตรละ 50 สตางค์ (สต.) ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 32 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.2566 โดยการปรับลดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือน พ.ค. หรือเป็นครั้งที่ 6 นับจากเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา รวมปรับลดลงไปแล้วลิตรละ 3 บาท
สำหรับสาเหตุการปรับลดราคาครั้งนี้ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันตลาดโลก โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลลดลง โดยตั้งแต่วันที่ 1-8 พ.ค. ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยอยู่ที่ 86.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 10.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลเดือน เม.ย. ซึ่งอยู่ที่ 97.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสถานะของกองทุนน้ำมันเริ่มดีขึ้นมีฐานะติดลบ 79,327 ล้านบาท จากที่เคยติดหนี้สะสม 110,000 ล้านบาท
“กบน.จึงเห็นควรปรับลดราคาขายปลีกดีเซลให้กับประชาชน เพื่อช่วยประคับประคองค่าครองชีพและช่วยลดต้นทุนภาคขนส่งไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น จนเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ”
ขณะเดียวกัน ความผันผวนของราคาน้ำมันตลาดโลก ยังคงมีหลากหลายปัจจัย โดยจะเห็นได้ว่ามีเหตุการณ์สำคัญๆ ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงต้นเดือน พ.ค. หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ที่เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค.2550 ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลง แต่เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากบรรดานักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯและหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาคของสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนั้น กบน.ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยรุมเร้ารอบด้าน อาทิ การปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส ที่ประชุมวันที่ 4 มิ.ย.นี้, การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังเปิดประเทศ, ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และอยากฝากถึงกลุ่มธุรกิจขนส่งต่างๆ ถึงกรณีที่เคยระบุว่า หากน้ำมันดีเซลปรับลดราคา ภาคขนส่งก็พร้อมจะปรับลดราคาค่าขนส่งเช่นกัน โดย กบน. เห็นว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันถูกลง ภาคขนส่งก็ควรลดราคาให้ประชาชนเช่นกัน ส่วนมาตรการลดภาษีน้ำมันลิตรละ 5 บาท ที่จะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค. นี้นั้น คงต้องรอดูนโยบายรัฐบาลใหม่
โดยล่าสุด ฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 7 พ.ค.2566 ปรากฏว่า ติดลบ 79,327 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 32,581 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 46,746 ล้านบาท ล่าสุด ณ วันที่ 9 พ.ค. กองทุนน้ำมันเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันดีเซลลิตรละ 7.39 บาท แต่สามารถลดราคาขายปลีกดีเซลให้ประชาชนเพื่อลดค่าครองชีพได้เพียง 50 สต.ต่อลิตร แม้สามารถลดได้ 1 บาทต่อลิตร เพราะต้องดูสต๊อกน้ำมันให้กับผู้ค้าน้ำมันอย่างเป็นธรรมด้วย
“ปัจจุบันระดับราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกที่อ่อนค่า รวมถึงก๊าซหุงต้ม ราคาตลาดโลก (CP) อยู่ที่ 550 ดอลลาร์ต่อตัน ทำให้สามารถปรับลดการชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม ให้ประชาชน เหลือ 2.86 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ทำให้กองทุนน้ำมัน มีรายได้เข้าจากการจัดเก็บจากผู้ใช้น้ำมัน เฉลี่ยวันละ 553 ล้านบาท และก๊าซหุงต้มวันละ 8.62 ล้านบาท รวมรายได้เข้ากองทุนฯ 17,764 ล้านบาทต่อเดือน หากยังเก็บอยู่ในอัตรานี้ คาดว่ากองทุนน้ำมันจะติดลบลดลงต่อเนื่อง”.