“กบน.” ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ลงเป็นรอบที่ 4 อีก 50 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.นี้ เป็นการลดลงรวมแล้ว 2 บาทต่อลิตร มีปัจจัยจากราคาดีเซลตลาดโลก ในรอบเดือน มี.ค. ลดลงเกือบ 5 เหรียญฯต่อบาร์เรล ลุ้นราคาน้ำมันตลาด โลกในระยะต่อไป คาดผันผวนขยับสูงขึ้น หลังโอเปกพลัส ลดกำลังผลิตเพิ่ม
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีมติปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 0.50 บาท ต่อลิตร จากราคา 33.44 บาทต่อลิตร เป็น 32.94 บาทต่อลิตร มีผลวันที่ 7 เม.ย.เป็นต้นไป นับเป็นการปรับลดลง เป็นครั้งที่ 4 หรือรวมการปรับลงแล้ว 2 บาทต่อลิตร นับตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุการปรับลดลงครั้งนี้เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลเดือน มี.ค. อยู่ที่ 98.92 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลงจากเดือน ก.พ. อยู่ที่ 4.69 เหรียญฯ โดยอัตราเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันประเภท น้ำมันดีเซลเฉลี่ยเดือน มี.ค. อยู่ที่ 5 บาทต่อลิตร แต่สถานการณ์ราคา น้ำมันดีเซลโลก ยังคงมีความผันผวนจากวิกฤติด้านการเงิน ความผันผวนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดจนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน
“ปัจจุบันฐานะเงินกองทุนน้ำมันเริ่มทยอยติดลบลดลง ณ วันที่ 2 เม.ย. ติดลบ 91,860 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 45,008 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) 46,860 ล้านบาท”
ขณะเดียวกัน สกนช.ได้ติดตามราคาดีเซลตลาดโลกอย่างใกล้ชิดในทุกๆสัปดาห์ เพื่อ ประกอบการพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกดีเซลให้กับผู้บริโภคหลังจากที่ราคาตลาดโลกอ่อนตัว นับตั้งแต่ ก.พ. ที่ปรับลดลง 2 ครั้ง ครั้ง แรกลด 50 สตางค์ (สต.)ต่อลิตร มีผลเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ครั้งที่ 2 ลดอีก 50 สต.ต่อลิตร มีผล วันที่ 22 ก.พ. ครั้งที่ 3 ลดอีก 50 สต.ต่อลิตร มีผลวันที่ 24 มี.ค. ก่อนที่ครั้งนี้จะพิจารณาปรับลดเป็นรอบที่ 4 มีผลในวันที่ 7 เม.ย.นี้ และยอมรับว่าต้องติดตามใกล้ชิด ถึงผลกระทบหลังการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) หรือโอเปกพลัสถึงการลดกำลังการ ผลิตน้ำมันดิบลงที่ชัดเจนอีกครั้ง
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สกนช. กล่าวว่า การเคลื่อนไหวราคาน้ำมันตลาดโลกที่เคลื่อนไหว ปรับขึ้นเมื่อวันที่ 3 เม.ย. มาจากกระแสข่าวที่ออกมาก่อนว่าโอเปกพลัสจะลดกำลังการผลิตระดับ 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ พ.ค.นี้จนถึงสิ้นปี โดยต้องรอความชัดเจนของผลการประชุมวันที่ 3 เม.ย. อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยแนวโน้มการปรับลดลงดังกล่าวมีผลต่อ ระดับราคาน้ำมันที่จะปรับตัวสูงขึ้นในระยะต่อไป และการปรับขึ้นดังกล่าว สกนช.ประเมินแล้วว่ากองทุนน้ำมันมีศักยภาพเพียงพอที่จะบริหารจัดการได้
“ผมได้ประเมินแล้วเพราะกองทุนน้ำมัน ขณะนี้เก็บเงินจากน้ำมันดีเซลเข้ากองทุน 5 บาทต่อลิตร ประกอบกับกระทรวงการคลังได้ขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.นี้ และกองทุนน้ำมัน เริ่มจะมีเงินกู้เข้ามาเสริมอีกในเดือน เม.ย.นี้อีก 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยมาทำให้รวมๆ สภาพคล่องกองทุนน้ำมัน ค่อนข้างดีขึ้น จึงทำให้ล่าสุดสามารถลดราคาขายปลีกในประเทศได้ และแม้ตลาดโลกขยับขึ้นก็มองว่ายังมีศักยภาพ ที่จะดูแลได้”.