“นํ้ามัน” พลังงานกระทบทั้งโลก คงมิใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากราคานํ้ามันและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้กระทั่งสหรัฐฯที่มีบทบาทสำคัญในการเสนอควํ่าบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียก็ไม่เจอไปด้วย
พูดง่ายๆว่าจะเล่นงานเขาแต่ก็ถูกลูกหลงไปด้วย
แม้ว่าสหรัฐฯจะมีบ่อนํ้ามันที่ยังไม่ถูกนำมาใช้อีกเป็นจำนวนมาก แต่ก็พยายามที่จะใช้นํ้ามันจากแหล่งอื่นๆ
แต่ก็ต้องพบปัญหา เพราะต้องอิงราคาเดียวกัน จนสหรัฐฯต้องยอมลดภาษีนํ้ามันเพื่อให้ราคาลดลงประชาชนจะได้ไม่เดือดร้อนมากนัก
นั่นคือการแก้ไขปัญหาของเขาทางหนึ่ง
สำหรับไทยนั้น ยังไม่มีมาตรการอะไรที่เป็นรูปธรรม นอกจากขอร้องให้ประชาชนประหยัดเท่านั้น
จึงไม่สามารถคลายความเดือดร้อนให้หมดไปได้ นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะหน้า นำเงินจากกองทุนนํ้ามันพยุงไว้เท่านั้น จนวันนี้กองทุนต้องติดลบไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว
“กรณ์ จาติกวณิช” หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีคลังที่คงศึกษาเรื่องนํ้ามันมามากพอสมควร จึงพบว่ามีวิธีหนึ่งที่จะหาเงินเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
คือให้นำเงินจากค่าการกลั่นนํ้ามันมาใช้ ซึ่งในประเทศไทยมีอยู่ 5-6 บริษัท ทั้งบริษัทของไทยเองและต่างชาติที่มีกำไรมหาศาล
แบ่งกำไรส่วนนี้มาช่วยพยุงราคานํ้ามันผ่อนกองทุน
แนวคิดนี้ถือว่าเป็นหนทางหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ จึงต้องเจรจากับบริษัทที่รับจ้างกลั่นนํ้ามันเพื่อแบ่งเบาภาระ
รัฐบาลขานรับเรื่องนี้ และได้ส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเจรจาแล้ว และมั่นใจว่ามีความเป็นไปได้สูงอยู่ที่ว่าจะได้เม็ดเงินเท่าใดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
โดยจะไม่ใช้วิธีบังคับด้วยกฎหมาย แต่ให้เป็นความยินยอมเอง
แต่ที่กำลังเกิดปัญหาบานปลายออกไปก็คือ การที่นายกรณ์ได้พาดพิงไปถึงกระทรวงพาณิชย์ว่าไม่ออกแรงช่วยอะไรเลย
ทั้งๆที่มีหน้าที่ในการควบคุมราคาสินค้า ทำให้กระทรวงพาณิชย์ดาหน้าออกมาโต้เป็นพัลวัน ทั้งจากข้าราชการและคนของประชาธิปัตย์ที่รับผิดชอบว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนํ้ามันเป็นเรื่องของกระทรวงพลังงาน
สุดท้ายกลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างคนเคยอยู่พรรคเดียวกันมาก่อน
ว่าไปแล้วปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากราคานํ้ามันนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องรับผิดชอบ
การที่นักการเมืองเสนอทางออกให้แก้ไขปัญหาจึงน่าจะต้องขอบคุณด้วยซํ้าไป ไม่ใช่เอาความรู้สึกเก่าๆมาทำให้เกิดความสับสนและเสียคะแนนไปเปล่าๆ
เมื่อรัฐบาลไม่มีปัญญาแก้ได้ มีผู้เสนอช่องทางให้ควรจะต้องขอบคุณเขาด้วยซํ้าไป ไม่ใช่ไปตั้งแง่ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
เพราะปัญหานี้ต่างได้รับผลกระทบไปทั้งประเทศ และไม่รู้ว่าจะจบลงได้เมื่อใด มีแต่จะหนักมากขึ้นทุกวัน
รัฐบาลจึงต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ว่ากระทรวงไหนก็ตาม.
“สายล่อฟ้า”