บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะนักลงทุนยังทยอยสะสมหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กได้ต่อ หลังเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น ได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคครัวเรือน และการส่งออก ชูทองคำก็น่าสนใจ แบ่งพอร์ตเข้าไปลงทุนได้
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2560 นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในสัปดาห์นี้ นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น เช่น เกาหลี และ อินเดีย จากการเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ปริมาณเข้าซื้อสะสมของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ต้นปีของทั้งสองตลาดอยู่ในระดับสูง ทำให้มีความเสี่ยงถูกเทขายหลังจากเฟดเริ่มส่งสัญญาณการลดงบดุลที่เร็วกว่าการคาดการณ์ของตลาด จึงแนะนำให้ชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นเกาหลีและอินเดีย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้เกิดความผันผวนมากเกินไปในตลาด จึงยังคงมีมุมมองบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยแนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว อาทิ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้นยุโรป และตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น มีเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง จากตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ และผลประกอบการบริษัทโดยรวมยังมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรปคลายความกังวลในทางการเมือง โดยล่าสุดธนาคารกลางยุโรปได้มีการปรับประมาณการตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจ หรือ GDP เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจยุโรปที่ชี้ถึงการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรมและบริการ ส่งผลให้การบริโภคครัวเรือนและความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการบริษัทเอกชน และตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ รวมถึงแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยทางบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น
สำหรับ ตลาดหุ้นไทยนั้น แนะนำให้ทยอยสะสมโดยเน้นที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคภาคครัวเรือน และการส่งออก ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ มีความน่าสนใจลดลงจากตัวเลข NPL ที่มากกว่าตลาดคาดการณ์ และการลดดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะกระทบรายได้จากธุรกิจกู้เงิน
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสินทรัพย์ทางเลือก แนะนำให้นักลงทุนมีทองคำในพอร์ตไว้บ้าง เพื่อการกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดหุ้น เนื่องจากตลาดหุ้นหลักๆ ของโลกปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าพื้นฐานของตลาดหุ้นโลกโดยรวมอยู่ในระดับสูง ทำให้ความเสี่ยงขาลงมีมาก หากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ
นอกจากนี้ เราคาดว่าการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ยังจำกัด เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไว้ส่วนหนึ่งแล้ว ทำให้แรงกดดันต่อราคาทองคำลดลง
ขณะเดียวกัน เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมน้ำมัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน (Driving season) จึงคาดว่าการปรับขึ้นของปริมาณสำรองน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นการเพิ่มขึ้นเพียงชั่วคราว เนื่องจากผู้ผลิตต้องการสำรองน้ำมันไว้เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น