จิตติ ชี้ทองคำไทย มีโอกาสพุ่งทำสถิติใหม่! หลังราคาตลาดโลกพีก จับตาบาทอ่อน-ลดดอกเบี้ยหนุน

Investment

Gold

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จิตติ ชี้ทองคำไทย มีโอกาสพุ่งทำสถิติใหม่! หลังราคาตลาดโลกพีก จับตาบาทอ่อน-ลดดอกเบี้ยหนุน

Date Time: 19 ส.ค. 2567 15:03 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • ราคาทองคำโลกพุ่งทำสถิติใหม่ทะลุ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านนักวิเคราะห์ฯ มองราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่นายกสมาคมค้าทองคำ ชี้ราคาทองคำไทยมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ชี้จับตา “ค่าเงินบาท”

Latest


นักลงทุนต่างจับตาราคาทองคำโลก (Gold Spot) หลังพุ่งทำสถิติใหม่ทะลุ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย และสงครามในตะวันออกกลางที่ยังยืดเยื้อ ด้านนักวิเคราะห์ฯ มองราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่นายกสมาคมค้าทองคำ ชี้ราคาทองคำไทยมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง


อย่างไรก็ตาม แนะจับตา “ค่าเงินบาท” จากปัจจุบันแข็งค่าค่อนข้างมาก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองไทยปรับตัวลดลง ซึ่งทุกการแข็งค่าหรืออ่อนค่าของเงินบาท 1 บาท จะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศ ให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงประมาณ 1,000 บาท ซึ่งถือเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง


ขณะที่ ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศ จากศูนย์วิจัยทองคำ ชี้ให้เห็นว่าสัปดาห์นี้ ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ตอบแบบสำรวจกว่า 57% มองว่าราคาทองคำมีโอกาสจะปรับเพิ่มขึ้น พร้อมแนะติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง นโยบายทางการเงินและรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ


จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า แม้ราคากลางทองคำในตลาดโลก (Gold Spot) ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่  ซึ่งประเมินว่าแนวโน้มราคาทองคำจะสามารถยืนเหนือระดับ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ และปรับตัวขึ้นต่อไปได้ จากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัดไป


แต่จากภาวะเงินบาทที่แข็งค่าค่อนข้างมาก ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศวันนี้ปรับตัวลดลง ทำให้คาดการณ์ราคาทองคำไทยในอนาคตได้ค่อนข้างลำบาก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในระยะกลาง-ยาว ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ส่วนจะถึง 45,000 บาท หรือไม่ ต้องติดตามทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยน


โดย นายกสมาคมค้าทองคำ ชี้ให้เห็นว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน ทั้งการอ่อนค่าและแข็งค่า 1 บาท จะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในประเทศ ให้เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1,000 บาท ซึ่งถือเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง


อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนว่าการลงทุนทองคำนั้น ถือเป็นสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ดีในระยะยาว แต่หากต้องการลงทุนระยะสั้นหรือเก็งกำไรใน Gold Spot จะต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น


ด้าน ศิริลักษณ์ ปโกฏิประภา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำในตลาดโลกยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยราคากลางทองคำในตลาดโลก (Gold Spot) ทำจุดสูงสุดใหม่ เพิ่มขึ้นเหนือ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ยังถือว่ามีความผันผวนสูง จากราคาทองในสัปดาห์ก่อนเคลื่อนไหวมีช่องว่างจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ


ทั้งนี้ ยังเชื่อว่าทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ แม้ประเด็นความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยจะลดลง แต่อัตราเงินเฟ้อและตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอย่าง PPI และ CPI ที่ออกมาต่ำคาด ทำให้ตลาดมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 1% ภายในปีนี้


ประกอบกับตลาดกลับมาให้ความสำคัญกับประเด็นสงครามในตะวันออกกลางอีกครั้ง หลังเหตุการณ์มีแนวโน้มมีความรุนแรงมากขึ้น จากกรณีการลอบสังหารผู้นำฮามาสเมื่อปลายเดือนก่อน ทำให้ความขัดแย้งดังกล่าวมีโอกาสยืดเยื้อ


ทั้งนี้ ในปี 2567 ประเมินเป้าหมายราคาทองคำในตลาดโลกคาดทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 2,550 บาท ส่วนราคาทองคำในประเทศอยู่ที่ 41,500 บาท โดยยังต้องติดตามสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันที่ให้ราคาทองคำไทยอาจปรับตัวขึ้นไม่ถึงจุดสูงสุดเดิม


อย่างไรก็ตาม บนสมมติฐานในกรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 6-12 เดือนข้างหน้าเสี่ยงถดถอยจริง หรือ กรณีที่เกิดสงครามในตะวันออกกลางจริง อาจทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกราว 200-250 ดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ


ศิริลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักลงทุนแนะนำ “ทยอยสะสม” ได้ เพื่อลงทุนระยะในยาว เนื่องจากยังมองว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มขาขึ้น พร้อมติดตามราคาทองคำโลกและสถานการณ์ค่าเงินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน


นอกจากนี้ แนะนักลงทุนติดตามผลการประชุม “Jackson Hole” ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจมีการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ คาดว่าจะมีการประกาศในวันศุกร์นี้


ด้านบทวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำโลกพุ่งทำจุดสูงสุด รับโมเมนตัมที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีราคาทองคำมีจังหวะปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุด อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้ หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาสร้างระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ว่าแรงซื้อเพิ่มขึ้น แต่เมื่อราคาปรับตัวขึ้น เริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามา ดังนั้น แนะนำ รอเปิดสถานะซื้อ หากราคาเคลื่อนไหวเหนือแนวรับโซน 2,483-2,464 ดอลลาร์สหรัฐฯ


ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งปิดสถานะซื้อทำกำไรบางส่วน หากไม่ผ่านแนวต้านโซน 2,510-2,525 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ พร้อมลดการลงทุน หากราคาหลุด 2,464 ดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับนักลงทุนทองคำและผู้สนใจ สามารถติดตามอัปเดตราคาทองคำล่าสุด วิเคราะห์แนวโน้ม สถิติราคาทองคำย้อนหลัง กราฟราคาทอง ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment/gold

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ