ราคาทองขึ้นแรงต่อเนื่อง YLG มองกรอบ "ทองคำแท่ง" ที่บาทละ 31,600-31,900

Investment

Gold

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ราคาทองขึ้นแรงต่อเนื่อง YLG มองกรอบ "ทองคำแท่ง" ที่บาทละ 31,600-31,900

Date Time: 15 มี.ค. 2566 08:33 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • ราคาทองคำยังขึ้นแรงต่อเนื่อง หลังกลุ่มแบงก์ในสหรัฐฯ ขาดเสถียรภาพส่อเค้าเกิดวิกฤติ YLG มองกรอบ "ทองคำแท่ง" ที่บาทละ 31,600-31,900

Latest


ราคาทองคำยังขึ้นแรงต่อเนื่อง หลังกลุ่มแบงก์ในสหรัฐฯ ขาดเสถียรภาพส่อเค้าเกิดวิกฤติ YLG มองกรอบ "ทองคำแท่ง" ที่บาทละ 31,600-31,900

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า จากกรณีที่กลุ่มธนาคารในสหรัฐฯ ขาดเสถียรภาพในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับผลกระทบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นจากนโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดีราคาของพันธบัตรกลับสวนทางกับอัตราผลตอบแทนดังนั้นเมื่อธนาคารมีการบันทึกบัญชีจากการถือครองพันธบัตรจึงทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก ปัจจัยนี้จึงทำให้เกิดการเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐฯ เพราะนักลงทุนคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่ จึงทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพของกลุ่มธนาคารในสหรัฐ และทำให้บางแห่งเกิดการปิดกิจการ

ทั้งนี้ การประชุมเฟดในช่วงวันที่ 21-22 มี.ค. 66 มีการคาดการณ์แตกต่างจากก่อนหน้าที่ที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% มาเป็นคาดการณ์ว่าว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว รวมถึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% เริ่มมีสัดส่วนการคาดการณ์ที่มากกว่า

ดังนั้นต้องจับตาว่าการขาดเสถียรภาพของกลุ่มธนาคารในครั้งนี้จะก่อให้เกิดวิกฤติทางการเงินหรือไม่ ซึ่งต้องดูการประชุมของเฟดในครั้งที่จะถึงนี้

สำหรับผลกระทบต่อตลาดทองคำ ยังต้องดูการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อประกอบ ถ้าหากเงินเฟ้อไม่พุ่งรุนแรงมากเช่นครั้งก่อนหน้า ก็อาจจะทำให้ทองคำย่อตัวอย่างจำกัด อย่างไรก็ดีการย่อตัวของทองคำถือเป็นโอกาสให้เข้าซื้อ เพราะแนวโน้มทองคำยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อ

ภาพรวมยังแกว่งตัวในขาขึ้นค่อนข้างชัดเจน โดยราคาทะยานขึ้นอย่างรุนแรง สวนทางสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.
โดยแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน

โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำเข้าใกล้จุดสูงสุดที่ 1,958 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ โดยเฉพาะระดับ 1,940-1,958 ราคาอาจจะมีแรงขายทำกำไรสลับลงมา เพราะระดับทองคำช่วงนี้เป็นจุดสูงสุดของปี ส่วนแนวรับแรกมองที่ 1,887 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์

แต่เนื่องจากเทรนด์ยังเป็นขาขึ้นได้ต่อ จึงสามารถทยอยเข้าซื้อ โดยแนวรับรับสำคัญอยู่ที่ 1,871 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หากไม่หลุดแนวรับนี้มีโอกาสปรับขึ้นต่ออย่างชัดเจน เพราะกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่เริ่มกลับเข้าซื้อทองคำ จึงเป็นอีกปัจจัยหนุนสำคัญ ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นแรง โดยราคาทองคำในรูปของเงินบาท มองกรอบแนวรับ 30,900-30,600 บาทต่อบาททองคำ แนวต้าน 31,900 บาทต่อบาททองคำ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์