YLG มองราคาทองคำปี 65 เคลื่อนไหวบวกลบอยู่ในกรอบ 3,000 บาท จากราคาปี 64

Investment

Gold

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

YLG มองราคาทองคำปี 65 เคลื่อนไหวบวกลบอยู่ในกรอบ 3,000 บาท จากราคาปี 64

Date Time: 20 ธ.ค. 2564 13:59 น.

Video

แก้เกมหุ้นไทยตกต่ำ ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผนฟื้นความเชื่อมั่น | Money Issue

Summary

  • YLG มองราคาทองคำปี 65 เคลื่อนไหวบวกลบอยู่ในกรอบ 3,000 บาท จากราคาปี 64 คาดว่าปรับขึ้นไปสูงสุดประมาณ 29,800 บาทต่อบาททองคำ

Latest


YLG มองราคาทองคำปี 65 เคลื่อนไหวบวกลบอยู่ในกรอบ 3,000 บาท จากราคาปี 64 คาดว่าปรับขึ้นไปสูงสุดประมาณ 29,800 บาทต่อบาททองคำ

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า ภาพรวมตลอดทั้งปี 2565 เป็นอีกหนึ่งปีที่ราคาทองคำจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา โดยราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบบวกลบ 3,000 บาทจากปี 2564 หรือคาดว่าปรับขึ้นไปสูงสุดประมาณ 29,800 บาท

โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาทองคำปี 2565 มี 5 ปัจจัยดังนี้

1. นโยบายของของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด โดยในปี 2565 มาตรการที่ต้องจับตาคือการเร่งลดการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่เฟดได้ส่งสัญญาณในการลดวงเงินการทำ QE เพื่อเปิดทางในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง

การปรับลดการทำ QE ของเฟดนั้นเม็ดเงินจะไม่ได้หายไปในทัน แต่จะค่อยๆ ลดลงทำให้ยังไม่กระทบทองคำในช่วงครึ่งปีแรก แต่อาจจะกระทบราคาทองคำในครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นเรื่องเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงยังถือเป็นประเด็นที่สนับสนุนทองคำและน่าจับตามองเพราะอยู่ในอัตราที่สูงสุดในรอบเกือบ 40 ปี

2. การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางและกองทุน SPDR ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ธนาคารประเทศต่างๆ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยได้เข้าซื้อทองคำแท่งเพื่อใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงกองทุนทอง SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่ได้กลับมาซื้อทองคำ หลังจากที่ทำการขายมาตลอดทั้งปี แต่เริ่มกลับเข้าซื้อเมื่อเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดทองคำ

3. ความต้องการทองคำกายภาพเริ่มกลับมา ความต้องการทองคำกายภาพในจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าทองคำรายใหญ่ของโลกเริ่มฟื้นตัวสอดคล้องกับเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศที่เริ่มฟื้นตัว เนื่องจากจีนและอินเดียมีความนิยมทองคำที่ส่งต่อกันมารวมถึงเป็นสิ่งจำเป็นในพิธีสำคัญต่างๆ เช่นพิธีแต่งงาน

4. ทองคำยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าปัจจุบันจะมีสินทรัพพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมาและเป็นที่นิยมของนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม การกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายรูปแบบไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอด แต่ไม่ว่าจะมีการกระจายการลงทุนไปยังทรัพย์สินรูปแบบใด พอร์ตการลงทุนที่ดียังต้องมีการลงทุนในทองคำ 5-15% ของพอร์ตลงทุน ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

5. เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยหนุนให้คนซื้อทองคำได้ในเงินลงทุนน้อยลง ปัจจุบันเทคโนโลยีช่วยให้ผู้ซื้อหรือนักลงทุนสามารถซื้อทองคำผ่านรูปแบบออนไลน์ และสามารถซื้อทองคำเริ่มต้นด้วยเงินเพียง 100 บาท ในรูปแบบของงการออมทอง

โดยการลงทุนในรูปแบบนี้ไม่มีความแตกต่างจากการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่ เพราะสามารถซื้อขายแบบเรียลไทม์ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกัน ทำให้ลดช่องว่างของผู้ที่ต้องการลงทุนในทองคำที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนมีเงินทุนจำนวนมากเท่านั้น

ในปี 2564 ที่ผ่านมา YLG พบว่า นักลงทุนได้เปิดบัญชีออมทองกับวายแอลจีเพิ่มขึ้นถึง 170% โดยกลุ่มที่มาลงทุนมีทั้งวัยทำงานและนักลงทุนรุ่นใหม่ อีกทั้งสามารถเริ่มออมได้เพียงเงินลงทุน 100 บาท โดยผู้ออมที่สะสมทองคำไปจนครบจำนวน 1 กรัมขึ้นไป สามารถเลือกได้ว่าจะไถ่ถอนนำทองคำกลับไป หรือถอนเป็นเงินสด หรือจะออมต่อเนื่องได้ด้วยเช่นกัน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์