บลจ.แห่งแรกของไทย ถึงวันต้องผลัดใบ  CGH ขายหุ้น เอ็มเอฟซี หมดพอร์ต  แม้ได้สิทธิบริหาร “วายุภักษ์”

Investment

Fund

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

บลจ.แห่งแรกของไทย ถึงวันต้องผลัดใบ CGH ขายหุ้น เอ็มเอฟซี หมดพอร์ต แม้ได้สิทธิบริหาร “วายุภักษ์”

Date Time: 25 ก.ย. 2567 10:52 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบลจ.แห่งแรกของเมืองไทย ที่เก่าแก่มีอายุกว่า 49 ปี ได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่ โดย บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) “CGH” ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดที่ถือใน MFC ออก ให้กับ Chartered Group Private Equity ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุน ที่บริหารเงินลงทุนกว่า 3.5 แสนล้านบาท

Latest


แม้ที่ผ่านมา MFC จะได้สิทธิในการบริหารกองทุน วายุภักษ์ ที่ 1.9 แสนล้านบาท ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนต.ค.นี้ก็ตาม ส่วน กระทรวงการคลัง และธนาคารออมสิน ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเดิมที่ร้อยละ 15.92 และร้อยละ 24.94 ตามลำดับ


ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานคณะกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) “MFC” เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 24 กันยายน 2567 ถึงการเข้าซื้อหุ้นโดย Chartered Group (โดย Opus-Chartered Issuances S.A.) จำนวน 31,357,850 หุ้น หรือ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.96 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ จากบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) “CGH” โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมทั้งสองราย ได้แก่ กระทรวงการคลัง และธนาคารออมสิน ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนเดิมที่ร้อยละ 15.92 และร้อยละ 24.94 ตามลำดับ


ดร.ณรงค์ชัย กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่บริษัทฯ จะเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนจาก Chartered Group ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการแก่ลูกค้าและนักลงทุนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง”


ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใหม่ Chartered Group เป็นบริษัท Private Equity ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุน การบริหารและดำเนินธุรกิจ การเพิ่มศักยภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน อสังหาริมทรัพย์และไลฟ์สไตล์ รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 แสนล้านบาท) ใน 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เยอรมนี ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อิสราเอล ลักเซมเบิร์ก และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีประชาชนให้ความสนใจด้านการเงินและการลงทุนมากขึ้น และเปิดกว้างในผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทระดับโลกแห่งนี้เข้ามาลงทุน


นอกจากนี้ บริษัทฯ เปิดเผยว่าการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ของ Chartered Group จะเป็นการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย และมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เช่น กระทรวงการคลังและธนาคารออมสิน เพื่อมุ่งสู่การเป็นพันธมิตรด้านการลงทุนอันดับหนึ่ง ผ่านแนวคิดสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ 1) การนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงิน บริการการเงิน และพันธมิตรนักลงทุนที่ดีที่สุดสู่ตลาดไทย 2) การร่วมมือกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อสร้างนวัตกรรมทางการเงินที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่สังคม 3) สร้างเสริมพันธมิตรด้านการบริหารทรัพย์สินส่วนบุคคลในระดับโลก และ 4) การส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้แก่นักลงทุนและประชาชนโดยทั่วไปให้เกิดความยั่งยืนในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว


อนึ่ง การเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายและโอกาสอันดีในการสร้างเสริมให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และจะทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาการส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าที่ได้มอบความไว้วางใจและให้การสนับสนุนแก่บริษัทฯ มาโดยตลอด ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ รวมถึงเสริมสร้างความเชื่อมั่นว่าความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหารและพนักงานทุกฝ่ายในองค์กรจะนำพาให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลดีต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกราย

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ