ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ (Disrupt) เปิดตัวกองทุน Disrupt Health Impact Fund พร้อมพันธมิตรร่วมลงทุนกลุ่มแรก ได้แก่ Digital Health Venture หรือ DHV ในเครือ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน), บริษัท ฐานะ แอสเสท จำกัด หรือ THANA, บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI และมหาวิทยาลัยศรีปทุม หรือ SPU
โดยตั้งเป้าลงทุนใน 15 บริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ภายใน 3-5 ปี ยกระดับระบบนิเวศการให้บริการสุขภาพ (Healthcare) เพื่อให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ในระดับโลก
พร้อมเปิดรับพันธมิตรหนุนกองทุน Disrupt Health Impact Fund ในการขับเคลื่อนให้ไทยเป็น Healthcare hub ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดมูลค่าตลาด HealthTech ทั่วโลกเติบโตต่อเนื่อง 10% ต่อปี
กระทิง พูนผล ประธานกองทุน Disrupt Health Impact Fund กองทุน 500 TukTuks และ ORZON Ventures เปิดเผยว่า อุตสาหกรรม Healthcare มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ ถึง 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 330 ล้านล้านบาท และเป็นเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศไทยก็กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพในหลายๆ เรื่อง จึงมองว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ
โดยอุตสาหกรรม Healthcare มีความน่าสนใจ จากเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง มีปัจจัยหนุนจากภาวะสังคมผู้สูงอายุทั่วโลก ขณะที่เม็ดเงินในตลาด Digital Health ที่คาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 10.7% ต่อปี
พร้อมกันนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI และ BioTech ที่นอกจากจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และกระจายโอกาสในการเข้าถึงการรักษาได้มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรม Healthcare เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ขณะเดียวกัน ธุรกิจ Healthcare มีกำแพงอุปสรรคในการเข้าสู่อุตสาหกรรมสูง ทำให้เกิดคู่แข่งหน้าใหม่ได้ยาก จากเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพมีความซับซ้อน ต้องใช้ความรู้เชิงลึก และต้องอาศัยความน่าเชื่อถือสูง
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมาก ในการเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในหลายๆ ด้าน ทำให้มีความตั้งใจว่าการจัดตั้งกองทุนครั้งนี้ จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการเติบโตของวงการ HealthTech รวมทั้งช่วยเร่งให้เกิดผลกระทบที่ดีในเชิงบวกด้านสุขภาพและสาธารณสุขให้กับสังคม ผ่านการลงทุนและการผนึกกำลังกับพันธมิตรที่ร่วมทุนในรอบแรกนี้
ด้าน จันทนารักษ์ ถือแก้ว กรรมการผู้จัดการ ดิสรัปท์ เทคโนโลยี เวนเจอร์ (Disrupt) และผู้บริหารกองทุน Disrupt Health Impact Fund กล่าวว่า กองทุนมีนโยบายและสนใจลงทุนใน 5 ด้าน ได้แก่ Self Care หรือ การดูแลสุขภาพด้วยตนเอง, Preventive Care หรือ เวชศาสตร์ป้องกันโรค, Silver Age หรือ ผู้สูงวัย, Holistic Wellness หรือ การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม, และ Smart Hospital หรือ โรงพยาบาลอัจฉริยะ โดยเฟ้นหานวัตกรรมระดับโลกในระยะออกสู่ตลาดแล้ว หรืออยู่ระหว่างการวิจัยในคน เพื่อขอการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA)
โดยตั้งเป้ามูลค่าลงทุนในระยะแรกประมาณ 17-50 ล้านบาทต่อ 1 บริษัท ในบริษัท Health Tech ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่ Pre-Series A ถึง Series B และหากบริษัทที่ลงทุนไปสามารถเติบโตได้ดีและมีความร่วมมือทางธุรกิจกับผู้ร่วมลงทุน ก็จะเป็นอีกโอกาสที่บริษัทจะได้เงินลงทุนตรงจากผู้ร่วมลงทุนในกองทุนตรงเพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้งนี้ ตั้งเป้าลงทุน 10-15 บริษัท ภายในระยะเวลา 3-5 ปี ซึ่งหลังจากเปิดตัวกองทุนแล้ว เตรียมลงทุนบริษัทแรก มูลค่าการลงทุนระยะแรก 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18.29 ล้านบาท) ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนเพิ่มในช่วงที่เหลือของปีอีก 2-3 บริษัท
โดยทางกองทุน Disrupt Health Impact Fund พร้อมเข้าร่วมลงทุนสนับสนุนนวัตกรรมระดับโลก ที่จะสามารถช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทย โดยการผนึกกำลังกันของพันธมิตร ร่วมกันกับบริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพและสร้างเครือข่ายความร่วมมือในประเทศไทย ให้สามารถเข้าถึง Deep Technology ทางด้าน Healthcare ระดับโลกได้
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้