บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (KAsset) มองเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2567 มีโอกาสแตะ 1,500 จุด โดยเชื่อว่าภาพรวมการลงทุนและสถานการณ์ต่างๆ ในปีนี้ ฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 ล่าสุดประกาศจับมือ J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) ร่วมออกกองทุน “Muti-Asset” ช่วยกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุนในช่วงผันผวน ดันมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AUM) แตะแสนล้านบาท ภายใน 3 ปี
สุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ KAsset เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปี 2567 เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงปลายปีก่อน น่าจะมีโอกาสได้เห็นดัชนีขึ้นไปที่ระดับ 1,500 จุด โดยเชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนปี 2566 ที่จะออกมา และปัจจัยแวดล้อมของไทย เช่น การท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นถึงเป้าหมายได้
ทั้งนี้ ยังต้องติดตามปัจจัยในระยะถัดไป ได้แก่ นโยบายรัฐ, ภาวะตลาดตราสารหนี้ที่อาจทำให้นักลงทุนกังวลใจ และภาวะการลงทุนทั่วโลก เช่น อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
อย่างไรก็ตาม ในภาวะการลงทุนที่มีความท้าทาย นักลงทุนต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง “โอกาส” และ “ความเสี่ยง” นั่นทำให้ KAsset มุ่งหาแนวทางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นคำตอบให้กับลูกค้าในการลงทุน ขณะที่โลกของการลงทุนนั้นมีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์ลงทุนของลูกค้า จึงมีการดึงพันธมิตรที่มีความชำนาญการลงทุนในต่างประเทศ เข้ามาเสริมศักยภาพการให้บริการ
สุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด กล่าวอีกว่า ความร่วมมือระหว่าง KAsset กับ J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) หรือ “เจ.พี.มอร์แกน” ในครั้งนี้ เป็นการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงนวัตกรรมด้านการลงทุน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลกเพื่อยกระดับการลงทุนของไทย พร้อมสร้างความเข้าใจเชิงลึกให้กับผู้ลงทุนไทยเพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
ทั้งนี้ จะมีการร่วมออกกองทุน “Muti-Asset” เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุน โดยจะเป็นการกระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AUM) จะแตะที่ระดับ 100,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่จะร่วมพัฒนากับ เจ.พี.มอร์แกน จะสามารถนำเสนอให้กับนักลงทุนได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า
ด้าน ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับธุรกิจการบริหารจัดการกองทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่มีการลงทุนในกองทุนรวมเกือบ 1 ล้านราย (ณ วันที่ 25 ธ.ค. 66) และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ดังนั้น ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง KAsset และ JPMAM ตั้งแต่การบริหารจัดการไป จนถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตรงความต้องการของลูกค้าธนาคารกสิกรไทย จะช่วยยกระดับประสบการณ์การลงทุนของลูกค้าได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับความมุ่งหมายของธนาคารในการส่งมอบผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่นักลงทุนไทย อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้ KAsset เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ
ด้าน อดิศร เสริมชัยวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ลงทุนไทยประมาณ 60% กำลังเผชิญปัญหาพอร์ตการลงทุนมีความผันผวน (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ วันที่ 25 ธ.ค. 66) โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และวิกฤติเศรษฐกิจโลก ปัจจัยเหล่านี้ได้นำไปสู่ความผันผวนของตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเมินสถานการณ์ได้ยากยิ่งขึ้น
KAsset จึงมุ่งพัฒนาแผนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก พร้อมปรับรูปแบบการลงทุนให้สอดรับและทันทุกการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ KAsset ที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนไทยมีความมั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ แดน วัตกินส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจ.พี. มอร์แกน แอสเซท แมเนจเม้นท์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ทีมงานของ JPMAM รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ KAsset ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ลงทุนไทย โดยมองว่าตลาดทุนไทยเป็นตลาดที่มีความคึกคัก และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี ความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลกของ JPMAM ทำให้พวกเรามีความพร้อมที่จะนำเสนอโซลูชันการลงทุนที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้กับผู้ลงทุนไทย และเป็นการเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจของ JPMAM ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังจาก 2 บลจ.ชั้นนำด้านการลงทุน โดย JPMAM เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการลงทุนระดับโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ KAsset เป็นผู้นำตลาดกองทุนรวมของไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 1.49 ล้านล้านบาท ที่มีความเข้าใจเชิงลึกต่อสินทรัพย์และสถานการณ์การลงทุนในไทย โดยความร่วมมือนี้จะมุ่งเสริมศักยภาพของ KAsset ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้ข้อมูลเชิงลึกที่เข้าถึงผู้ลงทุนได้ทันสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา และการให้คำปรึกษาอย่างเข้าใจ ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน