บลจ.กรุงไทย คัดกองทุน SSF และ RMF ชวนมนุษย์เงินเดือนลงทุนลดหย่อนภาษี

Investment

Fund

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

บลจ.กรุงไทย คัดกองทุน SSF และ RMF ชวนมนุษย์เงินเดือนลงทุนลดหย่อนภาษี

Date Time: 13 ธ.ค. 2565 11:13 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • บลจ.กรุงไทย พร้อมคัดกองทุน SSF และ RMF ชวนมนุษย์เงินเดือนลงทุนลดหย่อนภาษีปี 2565

Latest


บลจ.กรุงไทย พร้อมคัดกองทุน SSF และ RMF ชวนมนุษย์เงินเดือนลงทุนลดหย่อนภาษีปี 2565

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 65 นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM กล่าวว่า ปี 2565 เป็นอีกปีที่ตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนเป็นอย่างมาก แต่นักลงทุนที่ยังต้องลงทุนในกองทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็ยังคงต้องลงทุนอย่างมีวินัยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ KTAM จึงได้แนะนำนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อใช้ลดหย่อนภาษีในโค้งสุดท้ายของปี กับ 3 กลุ่มกองทุน ได้แก่ 1.กลุ่มกองทุนตราสารหนี้ 2.กลุ่มกองทุนหุ้นไทย และ 3.กลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศ

สำหรับ กลุ่มกองทุนตราสารหนี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพักเงินเพื่อรอจับจังหวะในการลงทุน หรือไม่ต้องการรับความเสี่ยงมากนัก พร้อมทั้งรองรับกับสถานการณ์ในช่วงดอกเบี้ยที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต แนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF2 (กองทุนระดับความเสี่ยง 4)

โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้ และตราสารหนี้อื่น ๆ รวมทั้งเงินฝากโดยจะปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้แต่ละประเภทข้างต้นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

ส่วนกองทุนชนิดเพื่อการออมแนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ พลัส (ชนิดเพื่อการออม) หรือ KTFIXPLUS-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งใน และ/หรือต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ส่วนกลุ่มกองทุนหุ้นไทย แนะนำ กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดี ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KT-HiDiV RMF (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีประวัติการจ่ายปันผลที่ดี สม่ำเสมอ และหรือมีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต

นางชวินดา กล่าวอีกว่า กองทุนชนิดเพื่อการออมแนะนำกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยที่มี ESG ที่ดี ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทย ก่อการดี ชนิดเพื่อการออม หรือ KT-ESGS-SSF (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหุ้นไทยเป็นหลัก โดยจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (ตามดัชนีผลตอบแทนรวม อีเอสจี ไทยพัฒน์ (Thaipat ESG Index (TR)) โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

กลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศ แนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KT-WEQRMF (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AB Low Volatility Equity Portfolio Class I (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ คือ ลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีปัจจัยพื้นฐาน มีความผันผวนตํ่า และมีความเสี่ยงในการปรับตัวลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตในระดับที่ตํ่า

กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KT-HEALTHC RMF (กองทุนระดับความเสี่ยง 7) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Janus Henderson Global Life Sciences Fund (Master Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (Retail Fund) เพียงกองเดียวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม

โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาหรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงบริการทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสังคมผู้สูงวัยในอนาคต ทำให้ธีมการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

กองทุนเปิดเคแทม Global Sustainable Growth Equity (ชนิดเพื่อการออม) หรือ KT-GESG-SSF (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนใน Schroder International Selection Fund Global Sustainable Growth (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายบริหารแบบเชิงรุก (Active Management)

โดยเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี และ กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดเพื่อการออม) (KT-US-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AB AMERICAN Growth Portfolio (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียว โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่ มีแนวโน้มในการเติบโตดี มีคุณภาพสูง

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มกองทุนหุ้นต่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย จีน และเวียดนาม ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว ที่ไม่ได้เผชิญกับแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้ออย่างรุนแรงเหมือนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว จึงแนะนำ กองทุนเปิดเคแทม ไชน่า เอแชร์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KT-Ashares RMF (กองทุนระดับความเสี่ยง 6)

เน้นลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (หุ้นจีน A-Shares) ผ่านการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz Global Investors Fund - Allianz China A-Shares (กองทุนหลัก) ในส่วนของกองทุนชนิดเพื่อการออม แนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เอเชีย โกรท อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดเพื่อการออม (KT-ASIAG-SSF) (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตสูงและมีคุณภาพดี ทั่วภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น) ผ่านกองทุน JPMorgan Funds – Asia Growth Fund (กองทุนหลัก)

นอกจากนี้ ยังคงมองว่าปัจจุบันเวียดนามเป็นเป้าหมายในการลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนต่างชาติ และกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นแหล่งการผลิตที่สำคัญของโลก จึงแนะนำ กองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม หรือ KT-VIETNAM-SSF (กองทุนระดับความเสี่ยง 6)

รวมถึงกองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KT-VIETNAM RMF (กองทุนระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียน และ/หรือบริษัทที่ดําเนินธุรกิจ หรือมีรายได้หลัก และ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากประเทศเวียดนาม โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ