ฮ่องกง ทวงตำแหน่งคืนจากสิงคโปร์ ขึ้นแท่น “ศูนย์กลางทางการเงิน” อันดับหนึ่งของเอเชีย

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ฮ่องกง ทวงตำแหน่งคืนจากสิงคโปร์ ขึ้นแท่น “ศูนย์กลางทางการเงิน” อันดับหนึ่งของเอเชีย

Date Time: 26 ก.ย. 2567 19:10 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • จับตาเม็ดเงินไหลเข้าฮ่องกง หลังตลาดทุนเริ่มฟื้นความเชื่อมั่น ล่าสุดการจัดอันดับความเป็นศูนย์การเงินของโลกประจำปี ระบุว่า “ฮ่องกง” แซงหน้า “สิงคโปร์” คว้าตำแหน่งศูนย์กลางการเงินอันดับหนึ่งของเอเชียอีกครั้งในรอบสองปี หลังจากสิงคโปร์ชิงบัลลังก์จากฮ่องกงไปก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนปี 2022

Latest


ผลสำรวจ Global Financial Centres Index 2024 (GFCI) ฉบับล่าสุดที่จัดทำโดย China Development Institute และหน่วยงานวิจัย Z/Yen ระบุว่า "ฮ่องกง" ทวงคืนตำแหน่งศูนย์การเงินอันดับหนึ่งของเอเชียอีกครั้ง หลังจากเสียตำแหน่งอันดับหนึ่งให้กับ "สิงคโปร์" ในเดือนกันยายนปี 2022 เนื่องจากสิงคโปร์ผ่อนปรนข้อจำกัดในการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งขณะนั้นฮ่องกงยังคงใช้การควบคุมที่เข้มงวดจนถึงเดือนมกราคมปี 2023

ทั้งนี้ผลรวมระดับโลก ฮ่องกงอยู่ในอันดับที่สาม ตามหลังนิวยอร์กและลอนดอน นอกจากนี้ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงหลายเมืองที่ไต่อันดับขึ้นมาอย่างโดดเด่น เช่น “ดับลิน” ที่ไต่ขึ้นมาสิบเอ็ดอันดับ “ดูไบ” ที่ไต่ขึ้นมาสี่อันดับ แซงหน้าปักกิ่งและโตเกียว ขณะที่ “เซี่ยงไฮ้” ร่วงลงมาสองอันดับและ “ปักกิ่ง” ร่วงลงมาสามอันดับ

ช่วงสองปีก่อนหน้านี้ฮ่องกงได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิดอันเข้มงวดที่ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคชะลอตัว การอพยพของบุคลากรที่มีความสามารถออกจากฮ่องกง กอปรกับสถาบันการเงินสำคัญๆ ภาคธุรกิจและห้างร้านที่ต้องยุติการดำเนินการชั่วคราว ส่งผลต่อเนื่องไปยังความเชื่อมั่นต่อการลงทุน และภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ฮ่องกง รวมถึงเมืองต่างๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และเซินเจิ้น ขาดการติดต่อกับประเทศอื่นทั่วโลก

อย่างไรก็ตามหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ฮ่องกงเร่งเครื่องฟื้นศักยภาพการแข่งขันของประเทศเพื่อฟื้นคืนบทบาทของตน โดยเฉพาะการเป็นผู้นำจัดงานประชุมระดับภูมิภาค รวมถึงการผลักดันอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่เชื่อว่าจะช่วยฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว

เดิมทีฮ่องกงติดอันดับหนึ่งเมืองที่โดดเด่นด้านการลงทุนและธุรกิจการจัดการความมั่งคั่ง โดยเฉพาะธุรกิจการจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่งของฮ่องกง ที่ปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 2% จากปีก่อน

ดัชนีศูนย์กลางการเงินโลกจัดอันดับฮ่องกงให้อยู่ในอันดับต้นๆ ในหลายด้าน ตั้งแต่นโยบายเปิดกว้างด้านตลาดทุน สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ พัฒนาการของเทคโนโลยีทางการเงินและการธนาคาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฮ่องกงพัฒนาไปอย่างมากในหลายด้านในฐานะศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ตามรายงานยังระบุอีกว่า คะแนนของฮ่องกงอยู่ในระดับสูงสุดของความสามารถในการแข่งขันในด้านต่างๆ อาทิ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ บุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และชื่อเสียง เมืองนี้ติดอันดับหนึ่งโดยรวมในด้านการจัดการการลงทุน

นอกจากนี้หลังจากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ในรอบสี่ปี ฮ่องกงได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลง 0.25% มาตรการเหล่านี้เมื่อรวมกับมาตรการต่างๆ ที่จีนประกาศเมื่อวันอังคาร ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกงได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม

คริสโตเฟอร์ ฮุย ชิงหยู เลขาธิการฝ่ายบริการทางการเงินและกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “ตลาดหุ้นที่ปรับตัวดีขึ้นประกอบกับการประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนให้บริษัทชั้นนำในจีนเข้าจดทะเบียนในฮ่องกงได้ ช่วยส่งเสริมให้บริษัทในจีนหลายรายเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา”

บทความที่เกี่ยวข้อง

ที่มา Bloomberg SCMP 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ