ทำงานต้องมีความสุข พนักงาน 62% ไม่สนุกกับงาน ทำโลกสูญเสีย GDP 8.9 ล้านล้านดอลลาร์

เป็นเรื่องจริงที่ว่า ทำงานยุคไหนก็ต้องเจอความลำบาก แต่หลังโควิดคนทำงานกำลังเผชิญกับ “ความเครียด” มากขึ้น จากการแข่งขันที่ดุเดือดรอบด้าน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง บีบให้มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเอาชีวิตรอด สวนทางกับเทรนด์ work-life balance ซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ เมื่อการหาจุดสมดุลระหว่างงานและชีวิตกลายเป็นเรื่องเพ้อฝัน หลายคนจึงหันมาให้ความสำคัญกับการหาเงินด้วยการทำงานเอาเป็นเอาตาย จนละเลยความสุขในแต่ละวัน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ซึ่งไม่ได้ส่งผลเสียแค่กับองค์กร แต่ลามไปถึงเศรษฐกิจโลก

Gallup บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจระดับโลก ได้เปิดเผยรายงาน State of the Global Workplace 2024 ซึ่งทำการวิจัยทัศนคติที่มีต่องานและคุณภาพชีวิตของพนักงานทั่วโลก เพื่อเป็นข้อมูลให้องค์กรนำไปพัฒนาสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผลวิจัยพบว่า ในปี 2023 พนักงาน 41% กำลังเผชิญกับความเครียดระดับสูง ทั้งนี้ระดับความเครียดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในแต่ละองค์กร พนักงานเกือบ 61% ที่ทำงานในบริษัทที่บริหารจัดการไม่ดี มีแนวโน้มเครียดสูงกว่าพนักงานที่ทำงานในบริษัทที่มีการบริหารจัดการดี นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า พนักงานที่ทำงานภายใต้การบริหารจัดการที่ไม่ดีประมาณ 30% มักมีความเครียดสูงกว่าคนว่างงาน

ทั้งนี้ผู้นำองค์กรหรือหัวหน้าส่วนใหญ่รับรู้ถึงปัญหาความเครียดในที่ทำงาน และพยายามหาทางออก แต่แนวทางแก้ปัญหายังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ เนื่องจากหัวหน้าจำนวน 1 ใน 4 ก็ประสบปัญหากับภาวะหมดไฟบ่อยครั้ง

แม้ปัญหาสุขภาพจิตไม่ได้มีสาเหตุมาจากงานทั้งหมด แต่การทำงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออารมณ์คนทำงานในแต่ละวัน สะท้อนจากดัชนีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2023 ที่ลดลงเหลือ 34% จาก 35% ในปีก่อนหน้า โดยการลดลงหลัก ๆ มาจากพนักงานที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ที่ประเมินคุณภาพชีวิตโดยรวมต่ำลง

จะเห็นได้ว่างานและคุณภาพชีวิตสัมพันธ์กันอย่างมาก รายงานระบุว่า หากพนักงานเห็นความหมายของงานที่ทำ จะทำให้การทำงานแต่ละวันมีความสุขมากขึ้น และมีอารมณ์ลบน้อยลง โดยครึ่งหนึ่งของพนักงานที่สนุกกับการทำงานมักจะประสบความสำเร็จในชีวิต เนื่องจากทำงานได้มีประสิทธิภาพ และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้องค์กรก้าวไปข้างหน้า ในขณะที่พนักงานที่ไม่ชอบงานของตัวเอง มีแนวโน้มที่จะมีความเครียดและความกังวลในแต่ละวันสูง จนส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

อย่างไรก็ตามในปี 2023 ที่ผ่านมา พนักงานส่วนใหญ่ทั่วโลกกำลังดิ้นรนในการทำงานเพื่อให้มีชีวิตรอดจนหมดไฟ โดยมีพนักงานเพียง 23% เท่านั้น ที่มีส่วนร่วมและรู้สึกสนุกในการทำงาน ในขณะที่พนักงาน 62% รู้สึกไม่มีส่วนร่วมในการทำงาน เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุมาจากการทำงานไม่ตอบสนองกับความต้องการ ทำให้คนส่วนใหญ่ทุ่มเทเวลาให้กับการทำงาน แต่ปราศจากแพชชันที่ผลักดันให้งานสำเร็จ

การที่พนักงานส่วนใหญ่ไม่มีความสุขในการทำงาน ไม่ได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อรายได้หรือผลการดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น วิจัยประเมินว่า การที่พนักงานมีส่วนร่วมในการทำงานที่ต่ำ ยังทำให้โลกสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจมากถึง 8.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 9% ของ GDP โลก

อ้างอิง

Gallup

ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney