รัฐบาลเกาหลีใต้ เตรียมแผนเพิ่มงบประมาณปี 2025 กว่า 677 ล้านล้านวอน หรือ 512,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่กำลังโต รวมไปถึง K-pop โดยกระทรวงการคลังเกาหลีใต้ตั้งเป้าจะเพิ่มงบขึ้น 3.2% จากปีก่อนหน้า
รัฐบาลได้ยื่นเสนอต่อรัฐสภา เพื่อขออนุมัติงบประมาณสำหรับพัฒนาประเทศในปีหน้า ซึ่งจะมีงบ 4,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาชิป แบตเตอรี่ และเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology)
ในส่วนของอุตสาหกรรมที่ร่วมขับเคลื่อนประเทศอย่าง K-Pop ที่จะมีงบประมาณทุ่มไปกว่า 2,175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้สนับสนุนการจัดคอนเสิร์ตและการสร้างคอนเทนต์ นอกจากนี้ จะมีการสนับสนุนทางการทหารมากขึ้น และจะใช้ในการพัฒนาโปรเจกต์พลังงานนิวเคลียร์ให้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
จากงานวิจัยของ Allied Market Research พบว่า ตลาดงานอีเวนต์ K-Pop มีมูลค่ามากถึง 8,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021 และคาดว่าจะเติบโตไปมีมูลค่ามากถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2031 หรือโตขึ้นปีละประมาณ 7.3%
เนื่องจากเกาหลีใต้ไม่ได้มีทรัพยากรธรรมชาติเป็นของตัวเองมากนัก จึงจำเป็นต้องนำเข้าทรัพยากรจากภายนอก แต่ธุรกิจชิปกลับเป็นสินค้าสำคัญในการส่งออกของเกาหลีใต้มาตลอดในปีนี้ อีกทั้งรัฐบาลยังคาดหวังว่า ในปีหน้าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นอีก แม้ว่าจะมีความกังวลว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงประมาณ 2.2% ก็ตาม
ธนาคารแห่งประเทศเกาหลี ยังรายงานอีกว่า GDP ของประเทศก็โตขึ้น 2.1% ในปีหน้าจาก 2.4% ในปีนี้
ปัจจัยหนึ่งของการยื่นเสนอเพิ่มงบประมาณประเทศครั้งนี้ มาจากภาวะสูงวัยของประชากรและการเปลี่ยนผ่านของเทรนด์การบริโภค การลงทุน และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ด้านประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ได้ออกมาเผยว่า มีแผนที่จะจัดตั้งกระทรวงใหม่ขึ้นมาเพื่อยกอัตราการมีลูกของประเทศให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเกาหลีใต้กำลังเผชิญปัญหาเป็นประเทศที่มีลูกน้อยที่สุดในโลก
นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังหาทางในการเพิ่มเงินสมทบการลาพิเศษเพื่อดูแลบุตร เป็น 2,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 1,425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังมีแผนที่จะลดหย่อนกฎหมายการขอสินเชื่อบ้านหรือจำนองบ้าน สำหรับครอบครัวที่มีลูกอีกด้วย
เกาหลีใต้ คือหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วขนาดเล็กที่รัฐบาลมีหนี้น้อยที่สุด โดยอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 48.3% ในปีหน้า จาก 47.4% ปีนี้ หากมีมติเห็นชอบในข้อเสนอเพิ่มงบประมาณนี้ และคาดว่าอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จะเพิ่มขึ้นไปเป็น 50.5% ในปี 2028
จากข้อมูลของ International Monetary Fund พบว่า อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP เฉลี่ยของเอเชียตะวันออกอยู่ที่ 109.6% ในปีนี้ โดยญี่ปุ่นมีอัตราส่วนมากที่สุดที่ 254.6%
ที่มา: Bloomberg
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney