สงครามการค้าเต็มรูปแบบ

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สงครามการค้าเต็มรูปแบบ

Date Time: 15 ส.ค. 2567 05:33 น.

Summary

  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานอัตราการว่างงานเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 4.3% บ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจเข้าสู่ สภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน คาดว่าจะเป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไป

Latest

ตลาดหุ้นอินเดีย สะเทือนครั้งใหญ่  หลังสหรัฐฯ ฟ้อง Gautam Adani ข้อหาฉ้อโกง กองทุนโลก จ่อเทขายเพิ่ม

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานอัตราการว่างงานเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 4.3% บ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจเข้าสู่ สภาวะชะลอตัวอย่างชัดเจน คาดว่าจะเป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไป ระหว่างวันที่ 17–18 ก.ย. จากระดับปัจจุบันที่ 5.25–5.50% นักลงทุนคาดว่าเฟดจะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายที่ร้อยละ 0.5% ลงมาอยู่ที่ 4.75–5.0% ดังนั้นตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไปทิศทางเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอีกระลอก

มาตรการกีดกันทางการค้าในรูปแบบภาษี เป็นอาวุธที่สำคัญในการแข่งขันทางการค้า ที่อ้างว่าเป็นการสร้างดุลการค้ากับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ามากเกินไป โดยเฉพาะประเทศจีน ถูกเพ่งเล็งมากที่สุด ถอดบทเรียนจากการขยายตัวของตลาดรถไฟฟ้าจีนในสหรัฐฯและยุโรป ทำให้ทั้งสหรัฐฯและยุโรปเร่งสร้างกำแพงการค้าเพื่อสะกัดการเอาเปรียบดุลการค้าในทุกมิติของจีน แต่กระนั้นก็ไม่สามารถเอาชนะจีนได้ หลังจากที่ จีนเจาะตลาดการค้าออนไลน์ โดยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะดาวรุ่งพุ่งแรง Temu ที่บุกตลาดสินค้าออนไลน์ในราคาถูกแสนถูกเข้ากับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

เมื่อเร็วๆนี้ สหภาพยุโรปตัดสินใจขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ที่มียอดขายทั้งในสหรัฐฯและยุโรปเกินร้อยละ 50 ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วจากเดิมร้อยละ 10 เป็นอัตราสูงสุดร้อยละ 38.1 ที่น่าจับตาก็คือ ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา สมาคมรถโดยสารของจีนเปิดตัวเลขยอดขายรถยนต์ลดลงร้อยละ 2.8 อยู่ที่ 1.72 ล้านคันในจำนวนนี้ปรากฏว่า รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานใหม่ BEV ขายได้ถึง 8.78 แสนคัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 37 มีแนวโน้มว่า รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดจะครอบครองตลาดรถยนต์แซงหน้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันในสัดส่วนกว่าร้อยละ 51

ในขณะที่จีนหาทางออกการกีดกันสินค้าจากจีนโดยมาตรการกำแพงภาษี ด้วยการเลิกการก๊อบปี้สินค้าชนิดต่างๆ หาแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ในประเทศจีน เพื่อจะลบแบรนด์จีน เปลี่ยนเป็นการผลิตสินค้าพรีเมียมที่มีคุณภาพ แข่งกับบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ หลังจากที่จีนเคยเป็นแค่แหล่งผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ดังต่างๆ หรือถึงขั้นที่ไปซื้อแบรนด์ดังของยุโรปหรืออเมริกาเพื่อผลิตสินค้าที่มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วออกมาจำหน่ายเอง

สงครามการค้าเต็มรูปแบบ ในแบบของสงครามเย็น ประเทศในอาเซียนได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่จีนทุ่มตลาดการค้าอย่างหนักไม่ได้หวังผลกำไรเฉพาะหน้า แต่ต้องการเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง จีนเปลี่ยนกลยุทธ์จากการเติบโตจากภายในที่อาศัยจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก มาเป็นการสร้างคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับสินค้าแบรนด์ดังที่คนทั่วโลกยอมรับ

ไม่ใช่แค่สินค้าเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเงินสกุลจีนที่จะมีมาตรฐานเดียวกับเงินดอลลาร์หรือสกุลยูโร หมายถึงความมั่งคั่งที่ถาวรและยั่งยืนของจีนตลอดไป และเราในฐานะมดตัวเล็กๆจะมีวิธีอยู่ให้รอดและอยู่ให้เป็นได้อย่างไร.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ