เฟด คงดอกเบี้ย ดับฝันตลาด ปี 67 ส่งสัญญาณลดแค่ 1 ครั้ง มองเงินเฟ้อสูงนานกว่าคาด

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เฟด คงดอกเบี้ย ดับฝันตลาด ปี 67 ส่งสัญญาณลดแค่ 1 ครั้ง มองเงินเฟ้อสูงนานกว่าคาด

Date Time: 13 มิ.ย. 2567 11:22 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • Fed ยืนหยัดคงดอกเบี้ย ที่ 5.25-5.50% แม้เงินเฟ้อชะลอตัวลง โดยเดือน พ.ค. CPI ทั่วไป อยู่ที่ 3.3% ส่วน CPI พื้นฐาน 3.4% พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง ก่อนสิ้นปี ดับฝันตลาด

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2567 (ตามเวลาสหรัฐฯ) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี นับเป็นการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 7 หลังจากทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 11 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 


โดย FOMC มองว่าตัวชี้วัดล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่มั่นคง การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ แม้เงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ยังปรับเพิ่มขึ้น

รวมถึงมีความคืบหน้าเล็กน้อยว่าเงินเฟ้อจะขยับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการฯ จึงมองว่ายังไม่เหมาะสมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้


นอกจากนี้ผลสำรวจความคิดเห็น ประมาณการอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ปี 2567 คณะกรรมการส่วนใหญ่ ยังส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง โดยคาดการณ์ค่ากลางอัตราดอกเบี้ยที่ 5.1% สูงกว่าคาดการณ์เดิมในเดือน มี.ค. ที่ 4.6% ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้ง 


รวมถึงได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ค่ากลาง Core PCE เป็น 2.8% จากคาดการณ์เดิมในเดือน มี.ค. ที่ 2.6% ทั้งนี้ Personal Consumption Expenditures (PCE) หรือดัชนีรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ มากกว่าดัชนี Consumer Price Index (CPI) เนื่องจากสะท้อนค่าใช้จ่ายของครัวเรือนมากกว่า


ทั้งนี้ท่าทีของเฟดที่ให้น้ำหนักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง  สวนทางกับคาดการณ์ของนักลงทุนที่มองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือน ธ.ค. หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ โดยดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% จากระดับ 3.4% ในเดือน เม.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.6% ในเดือน เม.ย.


อย่างไรก็ตามเฟดจะยังคงลดการถือครองหลักทรัพย์ แม้จะชะลอมาตรการลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ตั้งแต่เดือน มิ.ย. โดยปรับลดวงเงินพันธบัตรที่จะครบกำหนดการไถ่ถอนแต่ละเดือนจาก 60,000 ล้านดอลลาร์ลงเหลือ 25,000 ล้านดอลลาร์ โดยไม่มีการซื้อเพิ่ม แต่ยังคงวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Mortgage-Backed Security : MBS) ไว้ที่ 35,000 ล้านดอลลาร์ และจะนำเงินต้นที่เกินวงเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลแทน


ทั้งนี้การชะลอการลดขนาดงบดุลลง จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความโกลาหลในตลาดเงินเนื่องจากการลดสภาพคล่องในระบบ จะส่งผลเชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง 

อ้างอิง

ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์