ยินดี 4 “เพื่อนเก่า” เติบโต “สูงสุด” อาเซียน

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ยินดี 4 “เพื่อนเก่า” เติบโต “สูงสุด” อาเซียน

Date Time: 5 มิ.ย. 2567 05:50 น.

Latest

ตลาดหุ้นอินเดีย สะเทือนครั้งใหญ่  หลังสหรัฐฯ ฟ้อง Gautam Adani ข้อหาฉ้อโกง กองทุนโลก จ่อเทขายเพิ่ม

ผมตกข่าวที่ว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ “กัมพูชา” สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ในปี 2023 ที่ผ่านมา และนำมาใช้วิเคราะห์เมื่อต้นปี 2024 ไปได้อย่างไรก็ไม่รู้?

เมื่อช่วงวันหยุดยาววันเฉลิมฯ ผมอยู่กับบ้านไม่ได้ออกไปไหน ก็พอดีนึกขึ้นมาได้ว่านักการเมืองบ้านเราชอบพูดว่าเศรษฐกิจไทยโตต่ำสุด ในอาเซียน ก็เลยเข้าไปถาม “ดร.กู๋” หรือกูเกิล ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?

ปรากฏว่าเด้งขึ้นมาก่อนใครเพื่อนเลย เป็นข้อมูลของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เรานี่เอง...หยิบข้อมูลมาจากสถาบันสถิติอินโดนีเซีย Seasia Stats สรุปได้ว่า 11 ประเทศในอาเซียน มีอัตราการคาดหมายความเจริญเติบโตของ GDP ในปี 2024 โดยใช้ฐานจริงปี 2023 เรียงตามลำดับดังนี้

1. กัมพูชา (6.1%), 2. ฟิลิปปินส์ (5.9%), 3. เวียดนาม (5.8%), 4. อินโดนีเซีย (5.0%), 5. มาเลเซีย (4.3%), 6. ลาว (4.0%), 7. บรูไน (3.5%), 8. ไทย (3.2%), 9. ติมอร์-เลสเต (3.1%), 10. เมียนมาร์ (2.6%) และ 11. สิงคโปร์ (2.1%)

ส่วน ไทย เรานั้นลงไปอยู่ล่างๆจริงดังคำกล่าวขาน แม้ไม่ถึงกับบ๊วย แต่ก็อยู่ล่างๆราวๆที่ 8 เห็นจะได้ตามหลัง ลาว และ บรูไน

ที่ผมเซอร์ไพรส์พอสมควรเห็นจะเป็น สิงคโปร์ แหละครับ อยู่ที่ 2.1% และเป็นบ๊วยด้วย แต่ผมก็ไม่ได้ยินว่าทางรัฐบาลสิงคโปร์ออกมาแสดงความกังวลใจจนมากเกินไป

อาจเป็นเพราะฐานผลิตภัณฑ์ของเขาใหญ่ หารเฉลี่ยต่อหัวแล้วออกมาเยอะ...ผู้คนจึงรู้สึกเฉยๆไม่เดือดร้อนอะไรกับอัตราเพิ่มเพียงเท่านี้

จากตัวเลขที่เห็นนี้โดยเฉพาะเมื่อมองไปที่ “ท็อป 4” ก็อดมิได้ที่จะต้องแสดงความยินดีกับเพื่อนๆที่ประสบความสำเร็จ

สำหรับ กัมพูชา นั้น เป็นเพื่อนเก่าแก่มาแต่ดึกดำบรรพ์ จึงเหมือนลิ้นกระทบฟันโกรธกันบ้างดีกันบ้างเรื่อยมา...ล่าสุดถือว่าดีพอสมควรและอาจดีที่สุดก็ได้ในรัฐบาลนี้

เมื่ออัตราความเจริญเติบโตของเขาขึ้นสูงเป็นที่ 1 แบบพลิกล็อกเช่นนี้ ก็ต้องแสดงความยินดีอย่างจริงใจ ซึ่งจากบทวิเคราะห์ของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ของเรา ระบุว่า เนื่องจากรัฐบาลใหม่ของกัมพูชาค่อนข้างมีกึ๋นพอสมควร คลอดยุทธศาสตร์ใหม่ๆ หลายประการเป็นที่ดึงดูดใจนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น

ส่วน ฟิลิปปินส์ นั้น เคยได้ชื่อว่าเจริญระดับต้นๆของอาเซียน มีการพัฒนาที่สูงมาก มีระบบการศึกษาที่ดีมาก...ยุคหนึ่งเด็กบ้านเราใครสอบมหาวิทยาลัยไม่ได้ก็มักไปเรียนต่อที่ฟิลิปปินส์

แต่แล้วก็มาถึงยุคประธานาธิบดีเฟอร์ดินัลด์ มาร์คอส กับมาดามอีเมลดา ที่บริหารประเทศแบบคอร์รัปชันแหลกลาญ นำเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ดิ่งเหว...ถึงขนาดเมื่อประชาชนขับไล่ท่านไปแล้ว ยังจัด พิพิธภัณฑ์ “รองเท้า” ของมาดามมาร์คอสไว้ประจานถึงความฟุ่มเฟือย

ฟิลิปปินส์ตกต่ำอยู่นาน หนักหนาสาหัสมาก มาเติบโต 5.9 เปอร์เซ็นต์ เป็นที่ 2 อาเซียน วันนี้จึงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี

ทั้งที่ท่านประธานาธิบดีปัจจุบัน บอง บอง มาร์กอส ก็คือลูกชาย คนเดียวของเฟอร์ดินัลด์ มาร์กอส และมาดามอีเมลดานั่นเอง...ใครจะไปคาดเดาได้ถูกว่าจะกลับมากู้ชื่อแทนคุณพ่อคุณแม่ได้ในที่สุด

ในขณะที่ เวียดนาม ก็เพื่อนเก่า อินโดนีเซีย ก็เพื่อนเก่าและในอดีตก็เคยรุ่งเรืองมาก่อนเราด้วยซ้ำ เวียดนามโชคร้ายที่ถูกผ่าแบ่งประเทศทำสงครามเหนือใต้ อดอยากยากจนอยู่หลายปี ทั้งๆที่คนของเราได้ชื่อว่าค้าขายเก่ง และทำมาหากินเก่งที่สุดชาติหนึ่งของอาเซียน

ส่วน อินโดนีเซีย สมัยก่อนยุคประธานาธิบดี ซูฮาร์โต ยิ่งใหญ่มาก มาซบเซาไปเพราะปัญหาขัดแย้งภายในและระบบการเมืองการปกครอง ที่เป็นทหารและมีคอร์รัปชันสูง...มาค่อยๆฟื้นและฟื้นเต็มที่ในช่วง 10 ปี ของประธานาธิบดี โจโค วิโดโด นั่นเอง

รวมความแล้วก็ถือว่าสมบัติผลัดกันชม ประเทศโน้นเป็นที่ 1 บ้าง ที่ 2 บ้าง ก็เหมือนแข่งซีเกมส์ ผลัดกันได้เหรียญ

ของเราเคยอยู่ระดับต้นๆ เมื่อถึงคราวจะต้องถดถอยลงบ้าง ก็ต้องยอมรับความจริง และต้องหาทางออกทางแก้ไขกันต่อไป...เดี๋ยวสมบัติก็กลับมาให้เราชมจนได้แหละครับ.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ