ข้อมูลจากรายงาน Joint Center for Housing Studies ของมหาวิทยาลัย Harvard พบว่า ในปี 2565 ครึ่งหนึ่งของผู้เช่าทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ใช้เงินมากกว่า 30% ของรายได้ไปกับค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
จากการวิเคราะห์ข้อมูลสํามะโนประชากรปี 2565 พบว่า จำนวนผู้เช่าทั้งหมด 22.4 ล้านครัวเรือนในสหรัฐฯ มีภาระค่าใช้จ่าย โดยผู้เช่า 12.1 ล้านครัวเรือน มีการใช้จ่ายมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ไปกับอยู่อาศัย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ต้นทุนที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้เช่าเป็นวงกว้าง ตั้งแต่ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยไปจนถึงครัวเรือนที่มีรายได้สูง
โดยผู้เช่าที่มีรายได้ปานกลางมี ซึ่งมีรายได้ระหว่าง 30,000-74,999 ดอลลาร์ เป็นกลุ่มที่มีภาระค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ปี 2564 สอดคล้องกับจำนวนคนไร้บ้านที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 653,100 คน ณ เดือน ม.ค 2566
โดยปัจจัยที่ผลักดันให้ค่าเช่าที่อยู่อาศัยพุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากช่วงโควิด-19 ที่ค่าเช่าที่อยู่อาศัยตามเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 2 หลัก เนื่องจากเทรนด์การทำงานทางไกล ทำให้คนอเมริกันนิยมย้ายที่อยู่มากขึ้น
แม้ว่าปัจจุบันความร้อนแรงของตลาดเช่าที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวลง โดยจำนวนความต้องการเช่าลดลง 1% ในปี 2566 แต่จำนวนดังกล่าวก็ยังมากกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ถึง 19% ตามข้อมูลของ Apartment List
Cea Weaver ผู้ประสานงานโครงการรณรงค์ Housing Justice for All เปิดเผยกับสำนักข่าว The New York Times ว่า
"สถานการณ์ปัจจุบัน มันแย่กว่าที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน คนชนชั้นกลาง คนชั้นกลางตอนล่าง คนชนชั้นแรงงาน ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าเช่าได้"
ในรายงานระบุเพิ่มเติมว่า งบค่ากินอยู่ที่จำกัด บังคับให้ผู้เช่าที่มีความเปราะบางทางการเงิน ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างที่อาศัยและคุณภาพชีวิตด้านอื่นๆ โดยผู้เช่าที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูง ใช้รายได้จ่ายไปกับค่าอาหารและการดูแลสุขภาพน้อยกว่าผู้เช่าที่ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายอย่างมีนัยสําคัญ
อ้างอิง
อ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney