ข้อมูลจากสำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศจีน (State Administration of Foreign Exchange : SAFE) พบว่าการเคลื่อนย้ายเงินทุนของครัวเรือนและบริษัทจีน ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกมากกว่ากระแสเงินทุนไหลเข้า เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
โดยในปี 2566 เงินทุนของบริษัทและครัวเรือนไหลออกนอกประเทศ เป็นมูลค่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2561
ซึ่งส่งผลให้เงินทุนไหลออกติดต่อกันเป็นเวลา 4 ปี ติดต่อกัน หลังจากนั้นการส่งออกที่เพิ่มขึ้นและมาตรการจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนในช่วงโควิด-19 ได้ผลักดันให้เงินทุนไหลเข้ามากกว่าไหลออก
การไหลออกของเงินทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้จีนกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาอย่างต่อเนื่อง โดยจีนกำลังสูญเสียอำนาจในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก
ข้อมูลของ SAFE ยังระบุว่า เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ไหลออกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การลงทุนเพื่อการก่อสร้างโรงงาน ในปี 2566 พบว่า FDI ไหลออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.18 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับปี 2553
จากการสำรวจเมื่อปลายปี 2566 โดยหอการค้าญี่ปุ่นในประเทศจีน (Japanese Chamber of Commerce:JCC) เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามที่ดำเนินธุรกิจในจีน กล่าวว่า พวกเขากำลังลดขนาดการลงทุน หรือถอนการลงทุน
สอดคล้องกับข้อมูลของ SAFE ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 พบว่าจำนวนบริษัทต่างชาติในภาคอุตสาหกรรมจีน ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในเดือนกรกฎาคม จำนวนบริษัทต่างชาติลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2547
โทรุ นิชิฮามะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัย Dai-ichi Life ให้ความเห็นว่า
“ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และกฎหมายต่อต้านการจารกรรมฉบับแก้ไข กำลังถ่วงการลงทุนในจีน”
การเคลื่อนย้านเงินทุนของเหล่าเศรษฐีในจีนไปยังต่างประเทศ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศ
นอกจากนี้ การสิ้นสุดนโยบาย zero covid ในเดือนมกราคมปีที่แล้ว ส่งผลให้การท่องเที่ยวขาออกของจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนจีนได้นำเงินไปใช้จ่ายในต่างประเทศด้วย
จีนยังต้องเผชิญกับปรากฏการณ์เงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้น Shanghai Composite ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2566 เกือบ 20%
ในขณะเดียวกัน ตลาดตราสารหนี้กำลังเผชิญกับการฟื้นตัวของเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ยอดคงเหลือของพันธบัตรสกุลเงินหยวนที่ชาวต่างชาติถือครอง ซึ่งโดยปกติจะถือผ่าน Bond Connect ของฮ่องกง อยู่ที่ 3.66 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 15% จากจุดต่ำสุดล่าสุดในเดือนสิงหาคม
อ้างอิง
อ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney