ผลสำรวจเผย คน Gen Z กว่าครึ่ง เลือกคบแฟนจาก “ฐานะการเงิน” มากกว่า “หน้าตาและความฉลาด”

Economics

World Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ผลสำรวจเผย คน Gen Z กว่าครึ่ง เลือกคบแฟนจาก “ฐานะการเงิน” มากกว่า “หน้าตาและความฉลาด”

Date Time: 27 ธ.ค. 2566 15:01 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกคู่ของคน Gen Z ผลสำรวจล่าสุด โดย Northwestern Mutual พบว่า 49% ของคน Gen Z เลือกแฟนที่มีความเข้ากันได้ทางฐานะการเงิน มากกว่าองค์ประกอบเรื่องหน้าตา และความฉลาด

นับว่าเป็นปีที่ทำเอาหลายคนปาดเหงื่อในการเอาตัวรอด ท่ามกลางความไม่แน่นอน ของภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 และสถานการณ์เงินเฟ้อ ที่ผลักดันให้ต้นทุนค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก ซ้ำเติมภาระหนี้สินที่มีอยู่ให้แย่ลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 


ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกคู่ของคน Gen Z อีกด้วย


สะท้อนจากผลสำรวจล่าสุด โดย Northwestern Mutual บริษัทประกัน และที่ปรึกษาทางการเงินในสหรัฐฯ ที่ทำการสำรวจชาวอเมริกัน 2,740 คน ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2566 พบว่า 49% ของคน Gen Z เลือกแฟนที่มีความเข้ากันได้ทางฐานะการเงิน มากกว่าองค์ประกอบเรื่องหน้าตา และความฉลาด 


และเกือบ 1 ใน 3 หรือ 32% ของคน Gen Z มองว่าควรพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการเงิน ก่อนที่จะตกลงพัฒนาความสัมพันธ์อย่างจริงจัง

ในขณะที่ชาวอเมริกันมากกว่า 7 ใน 10 หรือ 72% ทุกช่วงอายุ มองว่าการพูดคุยเรื่องเงินควรเกิดขึ้นก่อนการแต่งงาน หรือก่อนที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน


นอกจากนี้ 34% ของ Gen Z ยอมรับว่า ปัญหาด้านการเงินเป็นสิ่งที่รับมือยากที่สุดเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ เมื่อเทียบกับกลุ่ม Boomers ที่มีสัดส่วนเพียง 17%


ทั้งหมดนี้ สะท้อนว่า คนรุ่นใหม่ ให้สำคัญกับฐานะการเงินเป็นองค์ประกอบหลัก ในการพิจารณาการเลือกคู่มากกว่าคนรุ่นก่อน

เหตุผลที่คน Gen นี้ ให้ความสำคัญเรื่องการเงิน มาเป็นอันดับแรก เนื่องจากต้องเริ่มสร้างตัวในยุคเศรษฐกิจขาลง ทำให้มีความกังวลทางการเงิน มากกว่าคนรุ่นก่อน


โดย 56% ของคน Gen Z กล่าวว่าความกังวลทางการเงินเป็นปัจจัยที่ทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งมากกว่าคน Gen X ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 37% และคนรุ่น Baby Boomers ที่ 20%


ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้คนรุ่นใหม่เกิดความเครียดทางการเงิน 


โดยในปี 2565 อัตราการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของคนอเมริกันอยู่ที่ 65.8% แต่มีเพียง 39% ของคนที่มีอายุต่ำกว่า 39 ปีเท่านั้น ที่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในขณะที่อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านระยะ 30 ปี พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 7.7% เป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

อ้างอิง

อ่านบทความ ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ต่อได้ที่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์