ต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งสูงขึ้น จากการเทขายตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก กดดันให้บริษัทในตลาดเกิดใหม่ เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ 4 แสนล้านดอลลาร์ ที่จะครบกำหนดในสิ้นปีนี้ เนื่องจากโรลโอเวอร์หุ้นกู้ทำได้ยากขึ้น
ทั้งนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 5% ในรอบ 15 ปี กดดันให้บริษัทจากประเทศกำลังพัฒนา ต้องแบกรับภาระหนี้ที่สูงขึ้น และสามารถออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิม (Rollover) ได้เพียงหนึ่งในสิบของความต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทเหล่านี้ยังต้องพบกับความท้าทายในการขอรีไฟแนนซ์ ซึ่งมีแนวโน้มจะยุ่งยากมากขึ้น หลังจากหุ้นกู้มูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ จะครบกำหนดชำระในปี 2568
ผู้จัดการการเงินและบริษัทจัดอันดับเครดิต กล่าวว่า ยิ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงนานเท่าไร สถานการณ์หนี้สินก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น สำหรับบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในการออกตราสารหนี้ระดับสูง อาจได้รับผลกระทบในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น แต่สำหรับบริษัทบางแห่งที่มีอันดับต่ำกว่า อาจนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ หรือแม้กระทั่งการล้มละลาย เนื่องจากไม่สามารถขอรีไฟแนนซ์เพื่อชำระหนี้เก่าได้
ตามการรวบรวมข้อมูลของ Bloomberg จนถึงขณะนี้ บริษัทในตลาดเกิดใหม่ได้ผิดนัดชำระหนี้ไปแล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ ส่งผลให้ยอดรวมของการผิดนัดชำระหนี้ ท่ามกลางการใช้นโยบายทางการเงินขึ้นดอกเบี้ยอย่างเข้มข้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 9.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 และ 9.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563
อ้างอิง