คาดเฟดคงดอกเบี้ยสูงต่อเนื่อง จีดีพีสหรัฐฯ ไตรมาส 3 แกร่ง โตเร็วสุดรอบ 2 ปี การบริโภคฟื้น

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา (26 ตุลาคม 2566) ตามเวลาสหรัฐฯ  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2566 พบว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวที่ 4.9% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.7% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบ 2 ปี และเติบโตมากกว่าสองเท่าของตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 1 และ 2 ที่มีขยายตัวอยู่ที่ 2.0% และ 2.1% ตามลำดับ

การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 3/2566 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค, การเพิ่มขึ้นของสินค้าคงคลัง, การส่งออก, การลงทุนของภาคเอกชน และการใช้จ่ายของรัฐบาล 

โดยการเติบโตของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าสองในสามของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.0% หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% ในไตรมาส 2 โดยได้รับแรงหนุนตัวเลขตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนการใช้จ่ายทั้งสินค้าและบริการ ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 8.4% และการใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 4.6%

แรงกดดันด้านราคาที่ลดลง ส่งผลให้ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.4% ชะลอตัวลงจากระดับ 3.7% ในไตรมาสก่อน และเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่ช้าที่สุด นับตั้งแต่ไตรมาส 4/2563 

ทั้งนี้ ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้ความสำคัญ เนื่องจากครอบคลุมการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนมากกว่าดัชนีเงินเฟ้ออื่นๆ

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาส 3/2566 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง แต่ตลาดยังคาดการณ์ว่า เฟด อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25%-5.50% ในการประชุมนโยบายการเงินสัปดาห์หน้า ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 ต.ค-1 พ.ย.

อ้างอิง

Bloomberg, Reuters