ตลาดหุ้นเอเชียทรุดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนในวันนี้ หลังได้รับผลกระทบจากราคาซื้อขายพันธบัตรปรับตัวลดลงทั่วโลก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี กดดันการประเมินมูลค่าหุ้นและภาพรวมการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง
โดยดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย ได้แก่ ดัชนีหุ้นเอเชียแปซิฟิกนอกญี่ปุ่น (.MIAPJ0000PUS) ของ MSCI ปรับตัวลดลงมากกว่า 1% เป็นวันที่สองติดต่อกัน ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น Nikkei (.N225) และดัชนีหุ้นเกาหลีใต้ Kospi (.KS11) ปรับตัวลดลงมากกว่า 2% ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 ปรับตัวลดลง 0.3%
ทั้งนี้จากรายงานพบว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 ต.ค. 2566) เงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะกลับมาแข็งตัวเพิ่มขึ้นที่ 147.3 เยนต่อดอลลาร์ อย่างฉับพลัน ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจใช้มาตรการแทรกแซงค่าเงิน เพื่อพยุงเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่การรายงานตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ ประจำเดือนสิงหาคม ซึ่งถูกเปิดเผยเมื่อวาน พบว่า ยอดเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 12 เบซิสพอยท์ในวันอังคาร และเพิ่มขึ้นอีก 3 เบซิสพอยท์ในเอเชียเป็น 4.838% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550
ขณะที่ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ทั่วเอเชีย กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน ค่าเงินบาท เงินดอลลาร์ไต้หวัน
ริงกิตมาเลเซีย รูเปียห์อินโดนีเซีย และรูปีอินเดีย กำลังอ่อนค่าเข้าใกล้จุดต่ำสุด