หุ้น “เอเวอร์แกรนด์” ร่วง 87% หลังกลับมาเทรดในตลาดฮ่องกงวันแรก เซ่นปมยื่นล้มละลาย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า China Evergrande Group หรือ เอเวอร์แกรนด์ อดีตบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่อันดับสองของจีน มูลค่าซื้อขายหุ้นเปิดตลาดช่วงเช้า ลดลงกว่า 87% มาอยู่ที่ 0.22 ฮ่องกงดอลลาร์ (1.39 บาท) และกลับมาปิดตลาดในช่วงเช้าที่ราคา 0.35 ฮ่องกงดอลลาร์ (1.57 บาท) หลังจากได้รับอนุญาตให้กลับมาทำการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นวันแรก 

โดยบริษัทได้รายงานผลดำเนินการครึ่งปีแรก ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ส.ค. 2566) พบว่า ขาดทุน 33 พันล้านหยวน มีหนี้สินรวมลดลง 2% เป็น 2.39 ล้านล้านหยวน (11.5 ล้านล้านบาท) ในขณะที่มูลค่าสินทรัพย์รวมลดลง 5.4% เป็น 1.74 ล้านล้านหยวน (8.4 ล้านล้านบาท)

ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ส.ค. 2566) บริษัทได้ดำเนินการยื่นขออนุญาตนำหุ้นกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เนื่องจากได้ทำการปรับปรุงคุณสมบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบตลาดหุ้นฮ่องกงแล้ว หลังจากถูกระงับการซื้อขายหุ้นนานกว่า 17 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2565 ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทสูญเสียมูลค่าในตลาดไปมากกว่า 99% จากจุดสูงสุด

อย่างไรก็ตาม บริษัทเปิดเผยว่าสถานะการเงินยังไม่มั่นคง โดยมีเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่และเงินสดที่จำกัดรวมกันอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านหยวน (6.3 หมื่นล้านบาท) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ในขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียนอยู่ที่ 7 แสนล้านล้านหยวน (3.4 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ยังได้เลื่อนกำหนดการประชุมลงมติปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศกับเจ้าหนี้ จากวันนี้ เป็นวันที่ 26 กันยายน ด้วยเหตุผลหลายประการ.

อ้างอิง

Bloomberg, Reuters