รัฐบาลสหรัฐฯ เสี่ยงปิดทำการในเดือนตุลาคม หลังสภาคองเกรสไม่สามารถยุติความขัดแย้ง เกี่ยวกับเงื่อนไขการลดงบประมาณค่าใช้จ่ายรัฐบาลกลางได้
สื่อต่างประเทศรายงานว่า เควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เห็นชอบให้มีการผลักดันเงื่อนไข ลดงบประมาณรัฐบาลกลางจำนวน 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกินกว่าวงเงินที่กำหนดไว้ ในกฎหมายระงับเพดานหนี้ที่สภาคองเกรสเพิ่งอนุมัติไปเมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว
โรซา เดอเลาโร ตัวแทนพรรคเดโมแครตระดับสูง กล่าวว่า การเพิกเฉยต่อกฎหมาย จะนำไปสู่การปิดทำการของรัฐบาลในที่สุด ในขณะที่ฝ่ายพรรครีพับลิกันต่างพากันกดดัน ให้แมคคาร์ธี เพิ่มการจำกัดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางที่นอกเหนือจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายระงับเพดานหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะถูกสมาชิกพรรครีพับลิกันด้วยกันปลดออกจากตำแหน่งประธานสภา
การลดงบประมาณตามเงื่อนของพรรครีพับลิกัน จะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงเล็กน้อย ในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแออยู่แล้ว และยังเพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
แอนนา หว่อง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ประเมินว่า การปรับลดงบประมาณรัฐบาลในปีงบประมาณ 2567 จำนวน 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2567 จะลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีนี้ ลง 0.1% และลดลง 0.25% ในปี 2567
โดยพรรครีพับลิกันมีแผนการที่จะให้เงินทุนแก่รัฐบาลตามดุลยพินิจที่ 1.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า แทนที่จะเป็น 1.59 ล้านล้านดอลลาร์ ตามเงื่อนในกฎหมายระงับเพดานหนี้ ซึ่งจะทำให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงกรมสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ถูกตัดงบประมาณลง 29% ในขณะที่กรมขนส่งและที่อยู่อาศัยจะถูกตัดงบประมาณลง 25% นอกจากนี้อาจทำให้แผนการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงที่กำหนดไว้ที่ 3% ต้องถูกระงับ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายภายในประเทศที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคง ถูกตัดงบประมาณรวมทั้งหมด 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง