อุ้มแบงก์ตามสูตร ธนาคารกลางสหรัฐ ตั้งกองทุน 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ช่วยเหลือผู้รับผลกระทบจากธนาคารล้ม

หลังจากหน่วยงานกำกับดูแลของรับแคลิฟอเนียร์ได้สั่งปิด และ สถาบันประกันเงินฝากของสหรัฐอเมริกา (FDIC) ได้เข้าพิทักษ์ทรัพย์ Silicon Valley Bank ในวันเสาร์ (11มี.ค 66) ตามเวลาประเทศไทย ต่อเนื่องด้วยการปิด Signature Bank ธนาคารพาณิชย์ในรัฐนิวยอร์กที่ปล่อยสินเชื่อส่วนใหญ่แก่บริษัทคริปโตฯ ทาง FDIC ได้ประกาศอนุมัติแผนช่วยเหลือทั้งผู้ฝากเงินและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับ Silicon Valley Bank โดยรับประกันว่าทุกบัญชีจะได้เงินคืนโดยเร็วตามวงเงินที่ได้รับการคุ้มครองบัญชีละ 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐอย่างเร็วสุดในวันจันทร์นี้

ล่าสุดเช้าวันนี้ (13 มี.ค 66) หลังการประชุมเร่งด่วนของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องที่ได้จัดแถลงการณ์ร่วม ประกอบด้วยประธานคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ Jerome Powell, Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และ Martin Gruenberg ประธาน FDIC

โดยธนาคารกลางสหรัฐ ฯ (FED) ได้ประกาศช่วยปกป้องเงินฝากของประชาชนเต็มจำนวน และรับประกันการจัดหาเงินและสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดตั้งกองทุน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์จาก Exchange Stabilization Fund เพื่อเป็นฐานสนับสนุน ผ่านการสร้าง Bank Term Funding Program (BTFP) ใหม่ โดยเสนอเงินกู้สูงสุดหนึ่งปีแก่สำหรับสถาบันที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร สมาคมออมทรัพย์ สหภาพเครดิต สถาบันรับฝากเงินอื่นๆ รวมถึง Mortgage-backed securities พร้อมรับสินทรัพย์คุณภาพดีเป็นหลักประกันในการกู้เงิน พร้อมคิดที่ราคาพาร์เพื่อเป็นแหล่งสภาพคล่องเพิ่มเติมสำหรับหลักทรัพย์คุณภาพสูง

ทั้งนี้ หน่วยงานทั้งหมด กล่าวว่าจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือผู้ถือหุ้นและตราสารหนี้ที่ไม่มีหลักประกันบางรายจะไม่ได้รับการคุ้มครอง

“การดำเนินการนี้กจะช่วยลดความเครียดในระบบการเงิน สนับสนุนเสถียรภาพทางการเงิน และลดผลกระทบต่อธุรกิจ และเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับมือกับแรงกดดันด้านสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้น” FED กล่าวในแถลงการณ์

อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีประกาศดังกล่าวออกมา ส่งผลรตลาดสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นยกแผง โดยราคา Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้นยืนเหนือระดับ 22,000 ดอลลาร์สหรัฐอย่างรุนแรงอีกครั้ง ขณะที่ Stable Coin อย่าง USDC ที่ราคาได้หลุด peg ได้กลับคืนไปในระดับ 1 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง

อ้างอิง Federal Reserve , CNBC