กบง.เคาะลอยตัวแอลพีจีเต็มรูปแบบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย เริ่ม 1 ส.ค.นี้ ปล่อยราคาตามตลาดโลก ขณะที่รัฐกำหนดอ้างอิงรายเดือนเท่านั้น ยกเว้นเกิดปัญหากับระบบเศรษฐกิจ ยันลอยตัว แล้วราคาไม่ขึ้น-ดูแลผู้มีรายได้น้อยเช่นเดิม ตรึงราคาเดือน ก.ค.ที่ 20.49 บาทต่อ กก.
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีพลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่า กบง.เห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซแอลพีจี (LPG) ทั้งระบบ มีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป เพื่อรองรับอนาคตที่ไทยจะต้องนำเข้าก๊าซมากขึ้นจากข้อจำกัดแหล่งการผลิตในประเทศที่แนวโน้มจะลดลง อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวรัฐยังคงดูแลผู้ใช้แอลพีจีกลุ่มผู้มีรายได้น้อยคงเดิม
โดย กบง.มีมติให้ยกเลิกการกำหนดแอลพีจีหน้าโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน และโรงอะโรเมติกส์ ยกเลิกการกำหนดราคา ณ โรงกลั่นที่อ้างอิงราคานำเข้า (Import Parity) ซึ่งเป็นราคาซื้อตั้งต้นก๊าซแอลพีจี พร้อมยกเลิกการกำหนดอัตราเงินส่งเข้า หรือชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากทุกส่วนของการผลิต ยกเลิกการประกาศราคาขายส่ง ณ คลังก๊าซ เพื่อให้ตลาดก๊าซแอลพีจีมีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ แต่ยังคงให้ สนพ. ติดตามและประกาศเฉพาะราคาอ้างอิงเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำกับดูแลราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีในประเทศ รวมทั้งให้ สนพ.มีกลไกการติดตามสถานการณ์ ราคานำเข้าก๊าซแอลพีจีและต้นทุนโรงแยกก๊าซอย่างใกล้ชิดเป็นรายเดือน ซึ่งหากราคาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
“ตามที่คาดการณ์ไว้ในเดือน ส.ค. กองทุนฯคงไม่มีการอุดหนุนราคาเลย จากที่ขณะนี้อุดหนุนอยู่ที่ประมาณ 12 สต.ต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งเท่ากับเป็นราคาที่ไม่มีการอุดหนุนใดๆ ดังนั้น เมื่อมีการลอยตัวเชื่อว่าราคาขายปลีกเองก็จะไม่ขึ้นแน่นอนแต่จะลงหรือไม่ต้องอยู่ที่ตลาดโลก ขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนบัญชีแอลพีจีก็ยังจะทำหน้าที่ดูแลราคาขายปลีกแอลพีจีในช่วงเฉพาะกรณีที่วิกฤติราคาจนกระทบเศรษฐกิจเท่านั้น ก็เหมือนกรณีน้ำมัน”
ด้านนายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การลอยตัวราคาแอลพีจีครั้งนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของไทยที่ดำเนินนโยบายเปิดเสรีนำไปสู่การลอยตัวราคา สะท้อนต้นทุนตลาดโลกแท้จริงครบทั้งหมด น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) และแอลพีจี “ขอย้ำว่าการดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อยสำหรับแอลพีจียังคงเดิม แต่อาจจะมีการโยกไปอยู่ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยหรือบัตรคนจนแทน แต่เงินทางกองทุนน้ำมันส่วนบัญชีแอลพีจีก็ยังโอนไปอยู่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกรมบัญชีกลางอยู่คงได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ ส่วนทิศทางราคาแอลพีจีตลาดโลกระยะยาว ยังเชื่อว่าจะไม่สูงนักและการแข่งขันมากขึ้น โดยระดับการค้าส่งเริ่มแล้ว และระดับค้าปลีกในส่วนของขนส่งแข่งขันมาก ส่วนในภาคครัวเรือนมี 3 กลุ่มหลักคือ ปตท. สยามแก๊ส และเวิลด์แก๊ส” นายทวารัฐกล่าว
สำหรับราคาแอลพีจีในเดือน ก.ค.60 กบง.ได้เห็นชอบคงราคาขายปลีกแอลพีจีที่ 20.49 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แม้ว่าต้นทุนจากการคำนวณจะลดลง 1.4262 บาทต่อ กก.โดยได้ลดอัตราการโดยปรับลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลง 1.4262 บาทต่อ กก.จากเดิมกองทุนน้ำมันฯ ชดเชยที่ 1.5469 บาทต่อ กก. เป็นชดเชย 0.1207 บาทต่อ กก. ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.เป็นต้นไป โดยขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนบัญชีแอลพีจีอยู่ที่ 6,448 ล้านบาท.