นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ เปิดเผยว่า เอ็มเอไอมีแผนหารือกับนักธุรกิจที่เป็นทายาทเจ้าของกิจการหรือทายาทเจ้าสัวทั่วประเทศ เช่น โครงการทายาทนักธุรกิจของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และกลุ่มที่อยู่ในโครงการวายอีซีของหอการค้าไทยและอื่นๆ เพื่อจัดทำแผนส่งเสริมผลักดันให้ธุรกิจที่บริหารงานโดยทายาทส่วนใหญ่ที่เป็นธุรกิจครัวเรือน เข้ามาจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ หรือส่งเสริมการใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายในการระดมทุนขยายกิจการ ทั้งนี้ ปัจจุบันเจ้าของธุรกิจจำนวนมากเริ่มวางมือและมอบอำนาจให้ทายาทรุ่นที่ 2-4 เข้ามาเป็นผู้นำในการบริหารงานแทน โดยคนกลุ่มนี้มีความรู้ทั้งด้านการบริหารจัดการ เทคโนโลยีและการสร้างเครือข่ายกับธุรกิจอื่นๆ ที่สำคัญส่วนใหญ่สนใจที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าด้านธรรมาภิบาล รวมถึงสามารถหาช่องทางในการระดมทุนเพิ่มขึ้นด้วย
“ทายาทนักธุรกิจส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับสูงทั้งในและต่างประเทศ โดยมีแนวคิดที่ทันสมัยสอดคล้องกับกระแสโลก ซึ่งมีทั้งที่รับกิจการมาดูแลต่อจากพ่อแม่ หรือบางรายตั้งธุรกิจใหม่อยู่ในกลุ่มสตาร์ตอัพ ดังนั้น เอ็มเอไอจึงมีแนวคิดที่จะหารือกับทายาทนักธุรกิจเป็นกลุ่มใหญ่ เพื่อร่วมจัดทำแผนส่งเสริมให้คนเหล่านี้นำบริษัทครอบครัวเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอได้ง่ายขึ้น”
ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดเอ็มเอไอมีบริษัทจดทะเบียน หรือ บจ.จำนวน 139 ราย มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคป 320,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) 15 บริษัท มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 20,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาขายไอพีโอไปแล้ว 5 บริษัท และคาดว่าในครึ่งหลังของปีจะมีจำนวน 10 บริษัท.