ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายต่างพากันรายงานตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 ออกมา โชว์กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์แทบทั้งสิ้น หลังราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยนายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR) เปิดเผยว่า ปี 60 แนวโน้มราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะไตรมาส 1 เพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อน 30% จากปัญหาภัยแล้งในประเทศผู้ผลิตสำคัญอย่างอินเดียและจีน ควบคู่กับความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศโตต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทมีผลผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มประสิทธิผลการผลิต การพัฒนาศักยภาพเกษตรกรนักธุรกิจชาวไร่อ้อย ประกอบกับรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าและปุ๋ยก็ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยไตรมาส 1 มีรายได้รวม 2,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% และมีกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221%
บริษัทยังมีแผนพัฒนาอ้อย, เพิ่มศักยภาพเกษตรกร และขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยมีเป้าหมายเพิ่มปริมาณอ้อย 3 ล้านตันในปีการผลิตหน้า และบริษัทกำลังเจรจากับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อร่วมลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ในบุรีรัมย์และสุรินทร์ เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำตาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะในเอเชียมีความต้องการบริโภคปีละ 77-80 ล้านตัน แต่ผลิตได้เพียง 65-68 ล้านตัน
ด้านนายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) เผยว่า ไตรมาสแรกปี 60 มีรายได้รวม 3,943.8 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่มีกำไรสุทธิ 412.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 729.8% จากงวดปีก่อน เพราะราคาน้ำตาลทรายที่ขายได้ปีนี้สูงกว่าปีก่อนมาก โดยราคาเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ตันละ 17,158.9 บาท ขณะที่ปีที่แล้วขายได้เฉลี่ยตันละ 13,363.1 บาท สูงกว่ากันถึง 28.4% นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็สูงขึ้นด้วย ทำให้สายธุรกิจเอทานอลมีรายได้และกำไรที่ดีขึ้นด้วย ขณะที่บมจ.น้ำตาลขอนแก่น แจ้งกำไร 453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%.