สศช.มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้โต 2.6% ปีหน้าพุ่ง 2.8% ฝ่านโยบาย "ทรัมป์" - หนี้ครัวเรือน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

สศช.มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้โต 2.6% ปีหน้าพุ่ง 2.8% ฝ่านโยบาย "ทรัมป์" - หนี้ครัวเรือน

Date Time: 19 พ.ย. 2567 08:55 น.

Summary

  • จีดีพีไตรมาส 3/67 ขยายตัว 3% รับแรงหนุนลงทุนภาครัฐ ส่งออก ท่องเที่ยว "สศช." ปรับเป้าจีดีพีปีนี้โต 2.6% จากเดิม 2.5% ส่วนปี 68 คาดโต 2.8% ชี้ความเสี่ยงอยู่ที่นโยบายเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของ "โดนัลด์ ทรัมป์" หนี้ครัวเรือน-ธุรกิจสูง แนะเตรียมรับมือ และเร่งแก้ปัญหา

Latest

HSBC ชี้เศรษฐกิจไทยโตกว่าที่คิด หลังรัฐเร่งลงทุน กระตุ้นบริโภค ต่างชาติเชื่อมั่น จ่อลงทุนไทยเพิ่ม

จีดีพีไตรมาส 3/67 ขยายตัว 3% รับแรงหนุนลงทุนภาครัฐ ส่งออก ท่องเที่ยว “สศช.” ปรับเป้าจีดีพีปีนี้โต 2.6% จากเดิม 2.5% ส่วนปี 68 คาดโต 2.8% ชี้ความเสี่ยงอยู่ที่นโยบายเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนของ “โดนัลด์ ทรัมป์” หนี้ครัวเรือน-ธุรกิจสูง แนะเตรียมรับมือ และเร่งแก้ปัญหา

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสที่ 3 ปี 67 ว่า ขยายตัว 3% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 2.2% ในไตรมาส 2 ปี 67 และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว ขยายตัวจากไตรมาส 2 ที่ 1.2% ส่วนช่วง 9 เดือนแรกของปี 67 ขยายตัว 2.3% “แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 67 คาดจะขยายตัว 2.6% สูงกว่าการประเมินครั้งก่อนว่าจะอยู่ที่ 2.3-2.8% โดยมีค่ากลางที่ 2.5% อัตราเงินเฟ้อคาดอยู่ที่ 0.5% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.5% ของจีดีพี ส่วนปี 68 คาดจะขยายตัว 2.3-3.3% มีค่ากลาง 2.8%”

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัวได้ถึง 3% มาจากการลงทุนภาครัฐขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ถึง 25.9% โดยการลงทุนของรัฐบาลกลับมาขยายตัวสูงถึง 43.1% ขณะที่การลงทุนรัฐวิสาหกิจลดลง 1.1% ขณะที่การส่งออกมีมูลค่า 77,221 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 8.9% และด้านบริการ โดยมีรายรับรวมจากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติและชาวไทยรวม 582,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8%

นอกจากนี้ สาขาก่อสร้างกลับมาขยายตัวครั้งแรกรอบ 4 ไตรมาส ที่ 15.5% โดยการก่อสร้างภาครัฐขยายตัว 33% แต่การก่อสร้างภาคเอกชนลดลง 5.4% รวม 9 เดือนปี 67 สาขาก่อสร้างลดลง 2.5% สำหรับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจนั้น อัตราว่างงานอยู่ที่ 1.02% เงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 0.6% ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2,000 ล้านเหรียญ หรือ 198,500 ล้านบาท เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ก.ย.67 อยู่ที่ 243,000 ล้านเหรียญ และหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ก.ย.67 รวม 11.63 ล้านล้านบาท คิดเป็น 63.3% ของจีดีพี

“จีดีพีไตรมาส 4 จะขยายตัวเท่าไหร่ยังไม่ขอกล่าวตอนนี้ โดยผลของการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางกว่า 14 ล้านคน เกิดขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย.67 จึงจะมาส่งผลในไตรมาส 4 ซึ่ง สศช.ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจกลุ่มตัวอย่างที่ต้องเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร เพราะเป็นการแจกเงินสดจึงจะทราบผลของการนำเงินไปใช้ ส่วนที่รัฐบาลจะแจกเงินหมื่นเพิ่มเติมให้กลุ่มผู้สูงอายุนั้น ขอให้รอการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจวันที่ 19 พ.ย.นี้ก่อนว่าจะดำเนินการช่วงเวลาไหน และจะส่งผลกระตุ้นต่อจีดีพีไตรมาส 4 ได้เท่าใด”

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 68 ที่คาดว่าขยายตัว 2.3-3.3% ค่ากลาง 2.8% นั้น มีปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายภาครัฐ การขยายตัวของอุปสงค์ภาคเอกชน การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และการขยายตัวของการส่งออก อีกทั้งคาดว่า การบริโภคและลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 3% และ 2.8% ตามลำดับ มูลค่าการส่งออกในรูปเงินเหรียญ
ขยายตัว 2.6% ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 0.3-1.3% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.6% ของจีดีพี

“ความเสี่ยงของปี 68 มาจากแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดของเศรษฐกิจและการค้าโลก ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความยืดเยื้อของความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หนี้ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่สูง และความผันผวนภาคการเกษตร”.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ