จับตา “ผลเลือกตั้งสหรัฐ” 3 ฉากทัศน์ สงครามการค้ารอบใหม่ เมื่อ “ทรัมป์” เตรียมใช้นโยบายขึ้นภาษี 60%

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตา “ผลเลือกตั้งสหรัฐ” 3 ฉากทัศน์ สงครามการค้ารอบใหม่ เมื่อ “ทรัมป์” เตรียมใช้นโยบายขึ้นภาษี 60%

Date Time: 6 พ.ย. 2567 10:54 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • ลุ้นผลเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ระหว่าง "คามาลา แฮร์ริส" และ "โดนัลด์ ทรัมป์" ใครจะขึ้นเป็นผู้นำสหรัฐฯคนใหม่ กับ 3 ฉากทัศน์ สงครามการค้าจีน-สหรัฐ รอบใหม่ เมื่อ “ทรัมป์” ประกาศเตรียมใช้นโยบายขึ้นภาษีสินค้าจากจีนอย่างเข้มข้น 60% ประเทศไทย ได้-เสีย ประโยชน์ อย่างไร ?

ศึกเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ระหว่าง "คามาลา แฮร์ริส" และ "โดนัลด์ ทรัมป์" กลายเป็นศึกที่คนทั้งโลกต้องจับตามอง เพราะผู้นำใหม่ไม่ได้มีบทบาทแค่เป็นผู้กำหนดทิศทางนโยบายภายในสหรัฐฯ ของอีก 4 ปีข้างหน้า แต่ยังเป็นตัวแปรของทิศทางเศรษฐกิจโลกทั้งใบ

เพราะไม่ว่าผู้ใดจะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ตาม สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มจะใช้นโยบายกีดกันทางการค้ากับจีนต่อไป ส่อแวว Trade War (สงครามการค้า) รอบใหม่ ที่อาจรุนแรงมากยิ่งขึ้น

และหาก Trade War รอบแรกปี 2561 สร้างจุดเปลี่ยนสำคัญในการปรับห่วงโซ่การผลิตของโลก Trade War รอบนี้ก็อาจจะยิ่งส่งผลกระทบทางลบที่มากขึ้นต่อทิศทางการค้าและเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

3 แบบจำลอง ผลการเลือกตั้งสหรัฐ กับ ผลกระทบต่อไทย 

วิจัยกรุงศรี ประเมินความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยล้อกับ “ผลเลือกตั้งสหรัฐ” ที่ขณะนี้คะแนนแทบจะสูสีกัน โดยให้น้ำหนักไปที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” อาจคว้าชัยชนะ ว่าหากตามนโยบายภาษีนำเข้าเข้มข้นที่ทรัมป์ประกาศไว้ อาจมี 3 สถานการณ์เกิดขึ้น ดังนี้

  • กรณีที่ 1 หากสหรัฐฯ ขึ้นภาษี 60% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน แม้ประเทศไทยและอาเซียนอาจได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตและการส่งออกทดแทนในบางอุตสาหกรรม อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ แต่การส่งออกในหลายอุตสาหกรรมมีแนวโน้มลดลงจากกรณีฐานตามอุปสงค์ที่ลดลงจากสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม
  • กรณีที่ 2 สหรัฐฯ ขึ้นภาษี 60% กับจีน และ 20% กับสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะรุนแรงกว่าจีน โดยการส่งออกของอาเซียนและไทยอาจได้รับผลเชิงลบจากการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของจีน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่ายังคงมีการย้ายฐานการผลิตมาอาเซียนและไทยอยู่ แต่ผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมของอาเซียนและไทยค่อนข้างน้อย และน้อยกว่ากรณีที่ 1
  • กรณีที่ 3 จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 60% กับสินค้าจากสหรัฐฯ การตอบโต้นี้จะทำให้ทั้งสหรัฐฯ และจีนได้รับผลกระทบด้านลบมากขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่จะสูญเสียการส่งออกในอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ขณะที่ไทยอาจได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตและการเพิ่มขึ้นของการส่งออกในบางกลุ่มสินค้า อาทิ อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ แต่ผลสุทธิต่อการส่งออกลดลงจากกรณีฐาน เนื่องจากความต้องการสินค้าอื่นๆ จากสหรัฐฯ จีนและโลกโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

“กรณีที่ทรัมป์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งสหรัฐ หากเดินหน้านโยบายภาษีนำเข้าที่เข้มข้นขึ้นตามที่เคยประกาศไว้ แม้จะช่วยกระตุ้นบางภาคส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่อาจเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตและกดดันผู้บริโภคด้วยราคาสินค้าที่สูงขึ้นอย่างมาก”

ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรียังประเมินว่า หากเกมพลิก “แฮร์ริส” ชนะแทน ก็คาดว่าผลกระทบต่อการค้าโลกจะไม่รุนแรงนัก เนื่องจากมีแนวทางจะเลือกเก็บภาษีเฉพาะสินค้าที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลก รวมถึงไทยในกรณีนี้จะไม่รุนแรง ขณะที่การย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังอาเซียนยังคงสร้างโอกาสให้แก่บางภาคส่วนของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม อาจมีผลทางอ้อมจากการนำเข้าสินค้าราคาถูกจากจีนที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศเช่นกัน

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ