นายกฯอิ๊งค์เร่งเครื่องรับข้อเสนอสมุดปกขาวของ กกร.ทันที มอบรองนายกฯแก้ปัญหาเศรษฐกิจโตต่ำกว่าศักยภาพมา 10 ปี, แก้หนี้ครัวเรือน เน้นคนที่กู้ซื้อบ้านหลังแรก กู้ซื้อรถกระบะ, สินค้าออนไลน์ไม่ได้คุณภาพตีตลาดไทย, แก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ, ปิดบริษัทม้าเชื่อมโยงบัญชีม้า
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2567 ขับเคลื่อนข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ได้หารือกับรัฐบาลเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ให้เป็นรูปธรรม จึงมีข้อสั่งการ ดังนี้ 1.ให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ร่วมกับเอกชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยที่โตต่ำกว่าศักยภาพมานานกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ต้องแก้ไขหนี้ครัวเรือนของประชาชน ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มุ่งไปที่การแก้ปัญหาหนี้สินของครัวเรือนและเอสเอ็มอี โดยหนี้ครัวเรือนจะครอบคลุมทั้งผู้ที่กู้เงินสำหรับที่อยู่อาศัยหลังแรก หนี้ของรถกระบะและรถปิกอัพที่ทำมาหากิน รวมทั้งให้เร่งมาตรการแก้หนี้เอสเอ็มอี 2.ให้นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปรับปรุงข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ ซึ่งเป็น
ต้นทุนของภาคเอกชนกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี จากขั้นตอนที่ล่าช้า 3.ให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำแผนงานการบริหารจัดการน้ำที่มีการทำไว้ มาดำเนินการให้เป็น รูปธรรม ไม่ให้น้ำท่วมและน้ำแล้ง 4.ให้นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงดีอี หามาตรการแก้ปัญหาสินค้าไม่ได้คุณภาพที่เข้ามาตีตลาดสินค้าไทย ภายใน 1 เดือน ใน 3 ประเด็นคือ 1.การขายสินค้าออนไลน์ต้องจดทะเบียนธุรกิจในไทย เพื่อควบคุมคุณภาพและเข้าสู่ระบบภาษี 2.สินค้าที่นำเข้ามาต้องได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรือ มอก. 3. สินค้าอาหารและยานำเข้า ต้องมีใบรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.)
ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ เผยว่า ได้รับบัญชาจากนายกฯให้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน 4 ด้าน ได้แก่ การแก้ปัญหาสินค้านำเข้าไร้มาตรฐานนั้น วันที่ 30 ต.ค.นี้ จะประชุมนัดแรก เพื่อติดตามความคืบหน้า, การเจรจาเอฟทีเอที่คาดว่าจะจบปีนี้คือ ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (เอฟตา) และยังมีที่กำลังเจรจาอีกรวมมากกว่า 10 ประเทศ, การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการได้คิกออฟระบบการให้บริการส่งออกสินค้ามาตรฐาน “OCS Connect” แบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ 100% ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น, การปิดบัญชีบริษัทม้าที่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า โดยจะชะลอจดทะเบียนนิติบุคคลให้กับบุคคลที่อยู่ในบัญชีเสี่ยงและเพิ่มความเข้มงวด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่