คลังเตรียมหารือหน่วยงาน หามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี “จุลพันธ์” ปิ๊งไอเดีย จัดคลังสัญจร ลงพื้นที่น้ำท่วมช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ ชี้เป็นไปได้ฟื้น “คนละครึ่ง” ด้าน รมว.การท่องเที่ยว จ่อชง ครม.ช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัปดาห์หน้า “พาณิชย์” ลงพื้นที่ปราบพ่อค้ากดราคาข้าว
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้กระทรวงการคลังจะนัดประชุมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงแนวทางการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีต่อเนื่องถึงปีหน้าตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจพิจารณา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในขณะนี้ ธนาคารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง จะออกมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมออกมาหลายประเภท และกำลังรวบรวมว่าจำเป็นต้องออกเครื่องมือกลไกอะไรเพิ่มเติม ซึ่งได้พูดคุยกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แล้วว่า อาจจะใช้รูปแบบกระทรวงการคลังสัญจรเป็นมหกรรมต่างๆ ในพื้นที่ที่เกิดความเสียหายจากน้ำท่วม เช่น อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่
ขณะนี้ถือเป็นภาระของรัฐบาลและกระทรวงอื่นๆ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในระยะเฉพาะหน้า แต่หลังจากนั้นกระทรวงการคลังควรจะเข้ามามีบทบาทเพื่อไปฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจที่เกิดความเสียหาย ประคับ ประคองช่วยเหลือประชาชน และกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้สามารถกลับมายืนได้อีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงมาตรการระยะสั้นเข้าไปช่วยสนับสนุน ในพื้นที่ที่ประสบภาวะอุทกภัย ว่าจะออกมาตรการระยะสั้นอย่างไร เพื่อให้คนกลับไปจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่และกลับไปท่องเที่ยว
ส่วนกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการคนละครึ่งว่าน่าจะเป็นไปได้นั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า ก็รับฟังทั้งหมด แต่ยังไม่มีข้อสรุป อย่างที่เคยตอบคำถามว่า รัฐบาลนี้คงไม่เอาเรื่องศักดิ์ศรี หรือว่าใครคิด ใครทำก่อนทำหลัง ไม่ได้สนใจตรงนั้น ขอให้มาตรการที่ออกมาเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเรายินดี ซึ่งตรงนี้กำลังคุยอยู่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะทำหรือไม่ทำ ส่วนหากนำโครงการคนละครึ่งมาทำเองอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยเคยวิจารณ์ว่าได้ไม่คุ้มนั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า ไม่หรอก ตอนนี้ภาวการณ์ทางเศรษฐกิจมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา และรูปแบบการทำจะเหมือนหรือแตกต่างกันเราก็ยังไม่เห็น สุดท้ายต้องมาดูสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุด ซึ่งยังไม่ได้หมายความว่าจะทำหรือไม่ทำ
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งในพื้นที่เชียงรายมีข้อมูลอยู่แล้ว จะนำเสนอ ครม.พิจารณาช่วยเหลือรอบแรกก่อน ขณะที่การปล่อยกู้ซอฟต์โลนต่างๆ จะนำเข้า ครม.สัปดาห์หน้าเช่นกัน
ขณะที่นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าวเปลือกในหลายพื้นที่อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว บางพื้นที่เพาะปลูกได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม กรมการค้าภายในจึงได้เข้าตรวจสอบผู้ประกอบการ โรงสีและท่าข้าวในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง เช่น จ.กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี เพื่อดูแลไม่ให้มีการเอาเปรียบเกษตรกร ไม่มีการกดราคารับซื้อ, หักลดน้ำหนักความชื้นและสิ่งเจือปนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด, แสดงราคารับซื้อและไม่คิดค่าชั่งน้ำหนักข้าวเปลือก
“จากการตรวจสอบ พบว่า ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้นไม่เกิน 15% ราคา 9,300-9,800 บาท/ตัน ข้าวเกี่ยวสดความชื้น 25% ราคา 8,300-8,800 บาท/ตัน บางพื้นที่ข้าวเปลือกมีความชื้นสูง ราคาปรับลดตามคุณภาพความชื้น โดยขณะนี้พบผู้ประกอบการใช้เครื่องวัดความชื้นคำรับรองสิ้นอายุ 1 ราย นายตรวจชั่งตวงวัดได้จับกุมส่งพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 แล้ว”.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม