“ทรงคุณค่า มีตำนานเล่าขาน และตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของมหานครกรุงเทพฯ” นี่คือนิยามแค่เศษเสี้ยวบางส่วน หากเราจะเอ่ยถึงโครงการมิกซ์ยูสที่พัฒนาโดยคนไทย แต่สร้างชื่อเสียงดังไกลระดับโลก อย่าง "ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (Dusit Central Park)” มูลค่าโครงการรวม 46,000 ล้านบาท บริเวณหัวมุมถนนสีลม ตรงข้ามสวนลุมพินี รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งสิ้น 440,000 ตารางเมตร
ซึ่งเป็นการรื้อถอนและสร้างขึ้นมาใหม่ (Urban Redevelopment) บนที่ดินประวัติศาสตร์ 23 ไร่ เจ้าของตำนานตึกที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย “โรงแรมดุสิตธานี” ที่เคยเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักเดินทาง คนมีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย
โดยเมื่อ 27 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ หนึ่งใน 4 ส่วนประกอบสำคัญของดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายใต้ภาพลักษณ์โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว บนตึกความสูง 39 ชั้น รวม 257 ห้อง
อย่างไรก็ตาม จิ๊กซอว์ในลำดับถัดมาที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญสูงสุด ดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค คือ The Residences at Dusit Central Park โครงการที่อยู่อาศัยที่ว่ากันว่าจะเป็นหนึ่งในคอนโดมิเนียมกลางเมืองระดับอัลตราลักซ์ชัวรี ซึ่งมีราคาขายต่อตารางเมตรสูงที่สุดของประเทศไทย
ล่าสุด “ละเอียด โควาวิสารัช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park อัปเดตความคืบหน้าของโปรเจกต์ The Residences at Dusit Central Park ซึ่งในรายละเอียดเบื้องต้น จะแบ่งเป็น 2 แบรนด์หลัก ได้แก่
- Dusit Residences (ดุสิตเรสซิเดนเซส)
- Dusit Parkside (ดุสิตพาร์คไซด์)
ว่านอกจากการกลับมาของโรงแรมระดับตำนานที่อยู่เคียงข้างกรุงเทพฯ มานานกว่า 50 ปี จนกลายเป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ สู่การต่อยอดสร้างคุณค่าใหม่ให้กับโรงแรมดุสิตธานีแล้ว
โครงการ Dusit Central Park ยังเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย โดยทั่วโลกต่างจับตามองในฐานะ The Only Thai Branded Residences อีกด้วย
โดยโครงการที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park ซึ่งเป็นส่วนอาคารที่สูงที่สุดของโครงการ มีความสูงจากฐานถึงยอดอาคาร 299 เมตร (69 ชั้น) นับว่าเป็นโครงการที่เชื่อมต่อเซ็นทรัล ลุมพินีที่มีความสูงอันดับ 1 และเมื่อแล้วเสร็จจะเป็นอาคารสูง 5 ลำดับแรกของประเทศไทย (นับเฉพาะโครงการที่พักอาศัย)
อันดับ 1 : เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
อันดับ 2 : เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส (ตึกมหานคร)
อันดับ 3 : ใบหยก 2
อันดับ 4 : โฟร์ซีซัน ไพรเวท เรสซิเด้นซ์
อันดับ 5 : The Residences at Dusit Central Park
อ่านข่าว : ดันทำเล “พระราม 4-สีลม” เทียบชั้น แมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก Super Core CBD แห่งแรกของ กทม.
เจาะรายละเอียด อาคารพักอาศัยสูง 69 ชั้น ดังกล่าว มีทั้งหมด 406 ห้อง แบ่งเป็น
โดยปัจจุบัน ทั้ง 2 แบรนด์ มียอดขายแล้ว 80% แบ่งเป็นผู้ซื้อคนไทย 80% และผู้ซื้อต่างชาติ 20% ผ่านราคาขายเฉลี่ยราว 3.9 แสนบาทต่อตร.ม. ซึ่งผู้พัฒนาคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปี 2568 และก่อสร้างพร้อมเข้าอยู่ในช่วงปลายปี 2568
ทั้งนี้รายละเอียดไฮไลท์สำคัญ คือ “ห้องเพนต์เฮาส์” ขนาดใหญ่ จำนวน 7 ห้อง ที่มีขนาดความใหญ่ตั้งแต่ 400-900 ตร.ม. โดยผู้พัฒนาเผยว่า เบื้องต้น มียอดขายออกไปแล้ว 50% ภายใต้รูปแบบ Leasehold (สิทธิการเช่าที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด)
ส่วนห้อง “ห้องเพนต์เฮาส์” ขนาดใหญ่สุด ที่มีพื้นที่มากถึง 900 ตร.ม. หนึ่งเดียวของโครงการนั้น ตั้งอยู่บนชั้น 69 บนสุดของอาคาร โดยปัจจุบัน มีผู้สนใจมากกว่า 1 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาหาครอบครอง
โดยผู้บริหารโครงการ เผยกับ Thairath Money ว่า ท้ายที่สุด อาจใช้วิธีการประมูล หากมีผู้ต้องการหลายราย โดยจะพิจารณาจากผู้ที่ให้ราคาสูงสุด ภายใต้การคาดการณ์ที่ว่า คอนโดฯ ของโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค อาจทำลายสถิติราคาขายต่อตารางเมตรที่สูงที่สุดในกลุ่มคอนโดฯ ลีสโฮลด์ของเมืองไทย
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก CBRE Thailand เผยว่า ปัจจุบัน ภาพรวมตลาดที่พักอาศัย ในครึ่งแรกของปี 2567 โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในโครงการที่สร้างแล้วเสร็จทำเลใจกลางเมือง (downtown) มียอดขายเฉลี่ยสูงถึงกว่า 93% โดยเฉพาะบริเวณเซ็นทรัล ลุมพินี และสีลม-สาทร มียอดขายกว่า 96% และ 94% ตามลำดับ
ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่มียอดขายสูงถึง 86% ซึ่งสูงกว่าเซกเม้นต์อื่นในทำเลเดียวกัน ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยละเอียดจะพบว่า โครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่บริหารโดยเครือโรงแรมระดับห้าดาว หรือ Branded Residences มียอดขายเฉลี่ยสูงถึง 90% และหากมองในแง่การลงทุนโครงการที่พักอาศัยในรูปแบบนี้ จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (Yield) ที่สูงกว่าเซกเม้นต์อื่นๆ พร้อมคาดว่า โครงการคอนโดมิเนียม The Residences at Dusit Central Park จะเป็นอีกหนึ่งโครงการศักยภาพที่สร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว
ทั้งนี้ โครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค ยังประกอบไปด้วยอีก 2 ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ Central Park Retail ศูนย์การค้าแห่งใหม่ ที่จะรวบรวมแบรนด์ชั้นนำในไทยและแบรนด์ระดับโลกมาไว้ที่นี่ และ Central Park Offices ตึกออฟฟิศของคนเมืองที่เต็มไปด้วยสีสัน และนวัตกรรมที่ทันสมัย พร้อม Roof Park สวนสาธารณะบนชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สีเขียวพิเศษขนาดใหญ่ 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งปัจจุบันระหว่างดำเนินการก่อสร้าง
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney