“บาทแข็ง-หุ้นเด้ง” นักลงทุนเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย “คลัง” เผยมีมาตรการกระตุ้นก๊อก 2

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“บาทแข็ง-หุ้นเด้ง” นักลงทุนเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย “คลัง” เผยมีมาตรการกระตุ้นก๊อก 2

Date Time: 18 ก.ย. 2567 09:20 น.

Summary

  • “คลัง” เผยนักลงทุนมีความเชื่อมั่น เงินไหลเข้าไทย ดันบาทแข็ง–ดัชนีหุ้นขึ้น พร้อมชงตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกฯเป็นประธาน เพื่อเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องตลอดปีงบประมาณ 68

Latest

HSBC ชี้เศรษฐกิจไทยโตกว่าที่คิด หลังรัฐเร่งลงทุน กระตุ้นบริโภค ต่างชาติเชื่อมั่น จ่อลงทุนไทยเพิ่ม

“คลัง” เผยนักลงทุนมีความเชื่อมั่น เงินไหลเข้าไทย ดันบาทแข็ง–ดัชนีหุ้นขึ้น พร้อมชงตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกฯเป็นประธาน เพื่อเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องตลอดปีงบประมาณ 68 เผยดิจิทัลวอลเล็ต เป็นแค่ส่วนหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนตลาดหุ้นไทยมากยิ่งขึ้น สะท้อนจากเม็ดเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 33-34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับเหมาะสม เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

“การดูแลค่าเงินบาทต้องดูแลให้เหมาะสม แข็งค่าเงินเกินไปกระทบต่อผู้ส่งออก แต่อ่อนค่าเงินบาทไม่เป็นผลดีต่อผู้นำเข้า ดังนั้น ต้องบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลพอดีๆ ส่วนจะเป็นอัตราเท่าใด เป็นหน้าที่ของ ธปท. ”

นายลวรณกล่าวต่อว่า บรรยากาศการลงทุนในประเทศเริ่มดีขึ้น โดยปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ได้ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของรัฐบาล ได้เติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบผ่านการเปิดขายกองทุนรวมวายุภักษ์ และกองทุน Thai ESG ที่ให้ผู้ซื้อสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีในปี 67 ได้สูงถึง 300,000 บาท ซึ่งไม่เคยมีปรากฏการณ์ให้หักลดหย่อนภาษีได้สูงมาก่อน เนื่องจากรัฐบาลต้องการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้น

ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ต้องทำหน้าที่เข้มงวดการนำบริษัทเข้ากระจายหุ้นในตลาด หลักทรัพย์ การกำหนดราคาขาย (ไอพีโอ) ให้กับประชาชนครั้งแรกต้องเหมาะสม และมีคุณภาพด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยเชื่อว่าในช่วงต้นปีหน้าจะมีหุ้นไอพีโอ กลับเข้ามากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มเติม

“ฟากรัฐบาลเติมความเชื่อมั่นให้นักลงทุนไปแล้ว ทั้งกองทุนวายุภักษ์ 150,000 ล้านบาท กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นหน่วยงานกำกับตลาดหุ้น ต้องมาช่วยอุดรอยรั่ว เพื่อเสริมแกร่งให้ตลาดหุ้นมากยิ่งขึ้น เพราะขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณว่าตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวแล้ว และนักลงทุนมีความต้องการที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น เพียงแค่รอจังหวะ หรือรอสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงเท่านั้น”

สำหรับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมนั้น นายลวรณกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง ได้เสนอแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คาดว่าจะลงนามในคำสั่งแต่งตั้งภายในสัปดาห์นี้ โดยคณะกรรมการชุดนี้ จะพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตลอด 12 เดือนของปีงบประมาณ 68 ซึ่งจะเป็นการทยอยออกมาตรการ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ

“คณะกรรมการชุดนี้จะเข้ามาแทนที่คณะกรรมการชุดต่างๆที่ดูแลเรื่องโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ฉะนั้น คณะกรรมการชุดนี้จะไม่ใช้ชื่อดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว เนื่องจากรายละเอียดโครงการค่อนข้างจำกัด จะเปลี่ยนเป็นคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเข้ามาดูว่าประชาชนที่ลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไว้ มีทั้งหมดกี่คน และมีงบประมาณทั้งหมดเท่าใด ดำเนินโครงการอะไรได้บ้าง ซึ่งอาจจะดำเนินโครงการที่ไม่ใช่เฉพาะการแจกเงินดิจิทัล หากมีเรื่องอื่นๆ กรรมการก็ต้องมาหารือคณะกรรมการชุดนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งแผนในการทำงานจะกว้างขึ้น”

สำหรับเบื้องต้นประชาชนที่มาลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ เพื่อรับสิทธิ์เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จำนวน 36 ล้านคนนั้น จะส่งรายชื่อดังกล่าวไปตรวจสอบคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และนำมาลบกับกลุ่มเปราะบางรอบแรก 14.5 ล้านคน และคณะกรรมการก็จะมาดูรายละเอียดว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

“การแจกเงินดิจิทัล เฟส 2 จะเป็นอย่างไร จะจ่ายแบบไหน จะต้องหารือกันในคณะกรรมการชุดนี้ เมื่อนายกฯจัดตั้งเรียบร้อยแล้ว จะมีการประชุมนัดแรกทันที ทั้งนี้ กรรมการชุดดังกล่าว ยังจะดูมาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์รับเงินดิจิทัล เช่น ผ่านการมอบของขวัญปีใหม่ที่ดำเนินการผ่านมาตรการภาษี เป็นต้น”

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ