กระทรวงพาณิชย์ เข็น 5 แผนฝ่าพิษสินค้าเถื่อน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมแก้ปัญหาการนำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานและราคาต่ำจากต่างประเทศว่า เป็นครั้งแรกที่ประชุมร่วมกับ 28 หน่วยงาน เพื่อกำหนดมาตรการปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค ผู้ผลิตและผู้ประกอบการในทุกมิติ โดยเบื้องต้นกำหนดให้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมกำหนด 5 มาตรการหลัก แยกเป็นมาตรการเร่งรัดและมาตรการยั่งยืน 63 มาตรการ เพื่อให้ 28 หน่วยงาน ดำเนินการเข้มข้น จริงจัง

“ช่วงแรกให้ทุกหน่วยงาน เพิ่มความเข้มข้นตรวจสอบการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยใช้กฎหมายเดิมที่มีอยู่ ทั้งในเรื่องความถูกต้องของการจดทะเบียนนิติบุคคล ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน คุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน ของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) การชำระอากรขาเข้าของผู้ประกอบการต่างชาติ ศุลกากรเปิดตู้สินค้าตรวจสอบให้ถี่ขึ้น มาตรการเหล่านี้ จะใช้กับสินค้านำเข้าทุกประเทศ ตั้งแต่พืชผักผลไม้ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และให้ทุกหน่วยงานแจ้งผลงานกลับมาทุกสัปดาห์ โดยจะประชุมร่วมกันทุก 2 สัปดาห์”

ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ จะดำเนินการจากเบาไปหาหนัก หากกฎหมายที่มีอยู่ไม่เพียงพอ หรือไม่ทันสมัย ก็พิจารณาความจำเป็นในการปรับปรุง หรือออกระเบียบใหม่ แต่ต้องอยู่ภายใต้กติกาการค้าที่เป็นสากล ส่วนแนวทางการกำกับดูแล แพลตฟอร์มค้า TEMU ได้ประสานสถานทูตจีน และทูตการค้าจีน เพื่อให้ประสานไปยัง TEMU ที่ตั้งสำนักงานที่สิงคโปร์ให้เข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งสำนักงานในไทย ซึ่งสถานทูตจีนพร้อมเป็นตัวกลางประสานให้

สำหรับมาตรการที่หน่วยงานรัฐต้องดำเนินการ 5 มาตรการหลัก 63 มาตรการย่อย มีทั้งมาตรการป้องกัน/กำกับดูแล และส่งเสริม พัฒนาและต่อยอด อาทิ ให้หน่วยงานบังคับใช้ระเบียบกฎหมายอย่างเข้มข้น โดยบูรณาการตรวจเข้มสินค้า ณ ด่านศุลกากรให้เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. และ อย. ทั้งในส่วนของการสำแดงพิกัดสินค้า การชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม การเพิ่มอัตราการเปิดตู้สินค้า การป้องปรามนอมินี

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ SME ไทย กล่าวว่า การเข้ามาของต่างชาติในไทย ไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ผลิตสินค้า แต่กระทบต่อผู้ประกอบการหลายส่วน เพราะเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ทำให้เกิดเศรษฐกิจนอกระบบ ธุรกิจสีเทา เกิดทัวร์ศูนย์เหรียญ เกิดนอมินีในหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจท่องเที่ยว ฯลฯ การเข้ามาของล้งรับซื้อผลไม้ ทำให้มีนอมินีเข้ามาซื้อสวนผลไม้ กว้านซื้อที่ดินทำกิน หากไม่แก้ปัญหา ในอนาคตความมั่นคงทางอาหารของไทยก็จะไม่มี เพราะพื้นที่เพาะปลูกเป็นของทุนต่างชาติ.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่