นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า เดือน ก.ค.67 การส่งออกมีมูลค่า 25,720.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 15.2% เทียบกับเดือน ก.ค.66 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 28 เดือน คิดเป็นเงินบาท 938,285 ล้านบาท เพิ่ม 21.8% ขณะที่นำเข้า 27,093.8 ล้านเหรียญ เพิ่ม 13.1% คิดเป็นเงินบาท 999,755 ล้านบาท เพิ่ม 19.4% ขาดดุลการค้า 1,373.2 ล้านเหรียญ หรือ 61,470 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 67 การส่งออก 171,010.6 ล้านเหรียญ เพิ่ม 3.8% คิดเป็นเงินบาท 6.129 ล้านล้านบาท เพิ่ม 9.4% ขาดดุล 6,615.9 ล้านเหรียญ หรือ 307,935 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกไทยเดือนก.ค.67 กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง มาจากความต้องการซื้อสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่กลับมาฟื้นตัวตามการขยายตัวของเทคโนโลยีดิจิทัล, การส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญ มีราคาสูงขึ้น เพราะผลผลิตในตลาดโลกที่ลดลง, เงินเฟ้อทั่วโลกชะลอตัว ช่วยเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภค รวมถึงค่าระวางเรือ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยกดดัน คือ ค่าระวางเรือที่ยังอยู่ในระดับสูง และการแข่งขันของสินค้าใหม่ ที่เข้ามาทดแทนสินค้าเดิมอย่างรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) สินค้าที่เน้นใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นที่จะเข้ามาแทนที่สินค้าใช้เทคโนโลยีต่ำ
นายพูนพงษ์กล่าวต่อถึงแนวโน้มเดือนส.ค.นี้ว่า การส่งออกจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยช่วง 5 เดือนที่เหลือของปี หากส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 24,000 ล้านเหรียญ ก็มีโอกาสที่ทั้งปีจะเติบโตได้ใกล้เคียง 2% จากเป้า 1-2% หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นค่าระวางเรือและราคาพลังงาน ความขัดแย้งของประเทศต่างๆ ทั้งรัสเซีย-ยูเครน, อิสราเอลและกลุ่มต่างๆในตะวันออกกลาง, ค่าเงินบาทที่ไม่ผันผวนเร็วจนเกินไป ฯลฯ.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่