ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 ก.ค.67 กระทรวงการคลังได้ร่วมมือกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ผนึกกำลังลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเกี่ยวกับโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ “หวยเกษียณ” รองรับการเข้าสู่ยุคสูงวัยของคนไทย เพื่อแก้ปัญหาคนแก่ไม่มีเงินออม ไม่มีเงินใช้จ่าย โดยการจัดเวทีสร้างความรู้นั้น เริ่มที่สถานีหัวลำโพง กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้สูงวัยจำนวนมาก ถัดไปวันที่ 14 ส.ค.67 จ.พังงา 25 ส.ค.67 จ.สกลนคร และ 28 ก.ย.67 จ.พิษณุโลก
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า หวยเกษียณถือว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งได้เร่งให้ กอช.ร่างแก้ไขกฎหมายให้เร็วที่สุด เพื่อเปิดขายหวยเกษียณในต้นปี 68 สำหรับข้อเสนอขยายอายุประชาชนจากเดิม ไม่เกิน 60 ปี เป็นมากกว่า 60 ปี ให้มีสิทธิ์ซื้อหวยเกษียณนั้น กระทรวงการคลังรับเรื่องไว้พิจารณาก่อน เพื่อศึกษาข้อดีข้อเสีย
สำหรับการออกแบบจำหน่ายหวยเกษียณงวดละ 5 ล้านใบ ยังไม่ใช่ตัวเลขที่ตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนหรือยืดหยุ่นได้ เพราะว่าหากกำหนดจำหน่ายสลากให้น้อยกว่าความต้องการในตลาด ก็จะทำให้หวยเกษียณในงวดนั้นๆขายได้หมด แต่ในช่วงแรกจะกำหนดไว้ที่ 5 ล้านใบต่องวด และยืนยันว่าหวยเกษียณไม่มีผลกระทบต่อผู้ค้าสลาก เนื่องจากเป็นคนละประเภทกัน โดยพุ่งเป้าไปแข่งกับหวยใต้ดินมากกว่าหวยบนดิน
ทั้งนี้ การจำหน่ายสลาก 5 ล้านใบต่องวดจะมีเงินเข้าไปในการบริหารจัดการของ กอช. 13,000 ล้านบาทต่อปี เฉลี่ย 10 ปีก็วงเงิน 130,000 ล้านบาท กอช.ก็จะเป็นหน่วยงานเสาหลักในการออมของประเทศทันที ส่วนการบริหารจัดการเงินนั้น ก็ได้มอบนโยบายให้ กอช.เน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด ส่วนรูปแบบเป็นลักษณะหวยขูดแบบดิจิทัล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้เป็นการลุ้นรางวัลแบบตัวเลข รูปภาพ ชื่อจังหวัด หรืออำเภอ อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ซื้อหวยไม่สามารถเลือกใบสลากได้ เพราะฉะนั้นหากซื้อ 50 บาท จะเห็นสลากหนึ่งใบมีวงกลม 10 วง และสามารถขูดลุ้นรางวัลได้ ส่วนระบบการออกรางวัลผ่านแอปพลิเคชัน กอช.ไม่ได้มีความซับซ้อน.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่