“หวยเกษียณ” เงินออมรับสังคมสูงวัย

ในที่สุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ “หวยเกษียณ” พร้อมมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.กอช.ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการดำเนินโครงการหวยเกษียณ ซึ่งกระทรวงการคลัง จะพยายามเร่งผลักดันเข้าสู่กระบวนการแก้ไข พ.ร.บ.กอช.ให้เร็วที่สุด

การออก “หวยเกษียณ” ใช้ความชอบเล่นหวยของคนไทย มาเป็นแรงจูงใจ ให้คนไทย “ออมเงิน” ไว้ใช้จ่ายในวัยเกษียณ เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่วัยสูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว จึงหวั่นเกรงว่าในอนาคตจะประสบปัญหาผู้สูงอายุมีเงินไม่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณ

“หวยเกษียณ” เมื่อซื้อหวยแล้ว เงินไม่หาย ไม่มีวันถูกหวยกิน ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก ได้ออมมาก มีเงินเก็บมากในยามเกษียณ และเป็นหวยที่ได้ลุ้น 3 เด้ง ได้ลุ้นล้าน ได้ออมเงินทุกบาททุกสตางค์ ได้ผลตอบแทนการลงทุนด้วย

สารพัดเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ กอช.มั่นใจว่า จะมีสมาชิกเข้าสู่ระบบการออมเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 2.76 ล้านคน เป็น 5 ล้านคน หลังจากออก “หวยเกษียณ” ภายใน 3 ปี และคาดหวังว่าแรงงานนอกระบบ จะเข้าสู่ระบบการออมไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน

ทั้งนี้ การออก “หวยเกษียณ” นั้น ในช่วงเริ่มต้นจะออกสลากงวดละ 5 ล้านใบ หรือ 250 ล้านใบต่อปี มีเม็ดเงินสะพัดปีละ 13,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายงวดแรกต้นปี 2568

ส่วนคนที่มีสิทธิ์ซื้อ “หวยเกษียณ” มีรายละเอียดดังนี้

1.ผู้มีสิทธิ์ซื้อสลาก ต้องเป็นสมาชิก กอช., เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ, ผู้ประกันตนมาตรา 40, แรงงานนอกระบบ, อายุ 15-60 ปี โดยผู้ออมสามารถซื้อสลากขูดดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน กอช.ใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน

2.สามารถซื้อได้ทุกวันตลอด 24 ชม. โดยจะมีการออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.

3.รางวัลที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 จำนวนเงิน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล ผู้ถูกรางวัลจะสามารถถอนเงินรางวัลได้ทันที หากรางวัลออกไม่ครบ ทบไปงวดต่อไป

4.ไม่ว่าถูกรางวัลหรือไม่ถูกรางวัล เงินที่ซื้อสลากทุกบาทจะถูกเก็บไว้ในบัญชีเงินออมของแต่ละบุคคล ผ่าน กอช. และจะสามารถถอนคืนได้ตอนอายุ 60 ปี เพื่อการออมทรัพย์รองรับการเกษียณ

5.เงินในบัญชีนั้นยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดระยะเวลาก่อนเกษียณ ผ่าน กอช.

6.เมื่อสมาชิกประเภท ข. อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ กอช.จะจ่ายเงินบำเหน็จผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือจ่ายเงินบำเหน็จให้กับผู้รับผลประโยชน์ผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีสมาชิกประเภท ข. เสียชีวิต)

อย่างไรก็ตาม การออก “หวยเกษียณ” มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ในฟากฝั่งของรัฐบาล เห็นด้วยเต็มพิกัด เพราะเป็นผู้ทำคลอดนโยบายนี้ออกมาเอง โดยเฉพาะ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง คนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เดินหน้าผลักดันเต็มสูบ วิ่งสู้ฟัด เพื่อให้การแก้ไข พ.ร.บ.กอช.เข้าสู่กระบวนการของสภาผู้แทนราษฎรให้เร็วที่สุด

ขณะที่หลายสำนักโพล ต่างเห็นด้วย เพราะจะทำให้คนไทยมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณเพิ่มมากขึ้น โดยสถิติเงินออมของคนไทย จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ณ เดือน พ.ค.67 คนไทยมีเงินฝากรวม 131.81 ล้านบัญชี วงเงินฝาก 17.30 ล้านล้านบาท โดยบัญชีเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาท มี 117.41 ล้านบัญชี วงเงิน 452,264 ล้านบาท, มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท

แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท 4.2 ล้านบัญชี วงเงิน 297,677 ล้านบาท

คนไทยที่มีเงินออมยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ ทำให้รัฐต้องหามาตรการจูงใจการออม “หวยเกษียณ” จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพื่อดึงคนไทยให้เข้าสู่ระบบการออมมากขึ้น จะได้มีเงินเลี้ยงชีพในช่วงวัยสูงอายุ

ส่วนฟากฝั่งที่ไม่เห็นด้วย เนื่องด้วยเป็นการมอมเมาประชาชน เพราะนอกจากลุ้นการออกรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีทั้งสลากใบกว่า 80 ล้านใบ และสลากดิจิทัล 24 ล้านใบ ออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง คือ วันที่ 1 และวันที่ 16 ขณะที่ “หวยเกษียณ” ออกรางวัลทุกวันศุกร์ ส่วนหวยต่างประเทศ ที่มีทั้งหวยลาว เวียดนาม มาเลเซีย เป็นต้น ออกรางวัลแบบวันเว้นวัน หรือบางประเทศออกทุกวัน

คงต้องรอพิสูจน์การออก “หวยเกษียณ” ว่าจะช่วยพลิกโฉมการออมของประชาชนคนไทย ดึงแรงงานนอกระบบเข้าสู่การออม ได้หรือไม่ หากสามารถกระทำได้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงอีกหนึ่งผลงานของรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ที่พยายามผลักดันจนสัมฤทธิ์ผล.

ดวงพร อุดมทิพย์

คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม