บัญชีม้าพุ่ง! กระทบคนไทยกว่าที่คิด แหล่งฟอกเงินสกปรกของ “มิจฉาชีพ” เช็กให้ชัวร์ อย่าตกเป็นเหยื่อ

Economics

Thailand Econ

Tag

บัญชีม้าพุ่ง! กระทบคนไทยกว่าที่คิด แหล่งฟอกเงินสกปรกของ “มิจฉาชีพ” เช็กให้ชัวร์ อย่าตกเป็นเหยื่อ

Date Time: 13 มิ.ย. 2567 16:45 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • บัญชีม้าพุ่ง! กระทบคนไทยกว่าที่คิด แหล่งฟอกเงินสกปรกของ “มิจฉาชีพ” ที่หลายคนยังยอมตกเป็นเหยื่อ เพียงเพราะเงิน 500 บาท เปิดผลพวงภาพใหญ่ อาจลามเป็น “ลูกโซ่” จนประเทศพัง เปิดวิธีเช็กให้ชัวร์ ถ้าเผลอเปิดบัญชีม้า จะแก้ไขอย่างไร? ให้ปลอดภัย

Latest


อาจไม่ตกใจมากนัก ถ้าจะบอกว่า แค่ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา (มี.ค. 2566-เม.ย. 2567) เจ้าหน้าที่ของไทยได้อายัด “บัญชีม้า” ไปแล้วเกือบ 2 แสนบัญชี 

โดยกว่า 30% เป็นการเปิด “บัญชีใหม่” ซึ่งเท่ากับยังมีทั้งคนที่ยอมตกเป็นตัวกลาง การทำงานของมิจฉาชีพ และเป็นเหยื่อจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในอัตราสูงอยู่ แต่ข้อมูลที่ชวนหวาดผวา คือ การที่วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาเปิดเผย ว่า “บัญชีม้า” ส่วนใหญ่เมื่อรับเงินแล้ว จะมีการโอนเงินต่อไปยังบัญชีอื่นๆ อีก 5 ทอด ด้วยกัน 

ภายใต้ฉากใหญ่ คนไทยตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างความเสียหายค่อนข้างสูง มากถึง 63,000 ล้านบาท 

ข้อมูลจาก ศูนย์บริหารการแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยข้อมูลหลอกลวงสะสม 1 มี.ค. 2565-31 พ.ค. 2567 เผยให้เห็นว่า ราว 36% เป็นการถูกหลอกลงทุน รองลงมา ถูกหลอกโอนเงิน (28%), หลอกลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (8%), หลอกซื้อสินค้า (6%), เจอแอปฯ ดูดเงิน 4% ที่เหลือ อื่นๆ 

โดยมิจฉาชีพใช้บัญชีม้าเป็นเครื่องมือหลักในการรับ-ส่งเงิน จากการหลอกลวงทุกประเภท หมายอายัดจากตำรวจก็พุ่งขึ้นเป็นกราฟ 

ขณะที่ผ่านมา ธปท. ยอมรับ การจัดการบัญชีม้าภายในธนาคารยังมีข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งในเรื่องข้อกฎหมาย และการจัดการบัญชีต้องสงสัยที่แตกต่างกันของแต่ละธนาคาร จากปัญหาหลักๆ ดังนี้ 

  • แต่ละธนาคารจัดการเฉพาะบัญชีม้าภายในธนาคารตัวเอง
  • ธนาคารส่วนใหญ่ยังยืดกรอบเวลาในการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฯ ในการระงับบัญชีม้า
  • ธนาคารมีแนวทางการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมผิดปกติ และวิธีจัดการที่แตกต่างกัน 

ธปท. ยกระดับการแก้ปัญหา “บัญชีม้า” วนกลับมาเปิดบัญชีใหม่ สกัดมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ๆ  

ทั้งหมดกลายเป็นช่องโหว่ในการจัดการ ทำให้ “บัญชีม้า” วนกลับมาใช้งานใหม่ หรือย้ายไปเปิดบัญชีที่ธนาคารอื่นได้ ทั้งนี้ ธปท. อยู่ระหว่างยกระดับการจัดการ “บัญชีม้า” ยกเครื่องทั้งระบบ เพื่อให้การป้องกันทำได้รวดเร็วขึ้น และลดความเสียหายของประชาชน 

  1. ยกระดับการจัด “บัญชี” เป็น “บุคคล”
  2. จัดการบัญชีต้องสงสัยเร็วขึ้น ครอบคลุมขึ้น เพ่งเล็งบัญชีที่โอนเงินเข้า-ออกมูลค่าน้อยในเวลาสั้นๆ หลายครั้ง ก่อนมีเงินโอนเข้า-ออกมูลค่าสูง 
  3. ดำเนินการเข้มข้นขึ้น ทั้งบัญชีที่มีอยู่เดิม และการเปิดบัญชีใหม่ 


โดยแนวทางจัดการบัญชีม้ารูปแบบใหม่ของ ธปท. จะอาศัยข้อมูลจากทั้ง ปปง., ฐานข้อมูลในระบบ CFR และฐานข้อมูลธนาคาร เพื่อใช้ประเมินความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกัน และมีการอัปเดตข้อมูลต่อกัน ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ 

สำหรับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม จากภัยการเงินที่แฝงมาในรูปแบบมิจฉาชีพ หลอกเปิด “บัญชีม้า” มีมากกว่าที่เราคิด และเราอาจต้องรู้เท่าทันมากยิ่งขึ้น เพราะล่าสุด มีเตือนภัยกลโกงบัญชีม้าแบบใหม่ มาในรูปแบบ “นิติบุคคล”

มิจฉาชีพมีการจ้างวานบุคคลให้ไปจดทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน จากนั้นนำหลักฐานการจดทะเบียนไปเปิดบัญชีในรูปแบบนิติบุคคล เมื่อเหยื่อตรวจสอบบัญชีปลายทางพบเป็นบัญชีบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจริง จึงเกิดความเชื่อถือ สุดท้ายหลงเชื่อโอนเงิน 

หรือข่าวดังในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ จากกรณีชายคนหนึ่งถูกจับกุมจากข้อหา “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

หลังรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับแอดมินเพจเพจหนึ่ง จำนวน 7 บัญชี โดยได้ค่าจ้างเป็นบัญชีละ 3,000 บาท แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว มีผู้อื่นได้รับความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท 

เปิดโทษเกี่ยวกับ “บัญชีม้า” โอนเงินแลกข้อมูลส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องพึงรู้ คือ โทษที่เกี่ยวกับบัญชีม้า เพื่อหยุดยั้งความผิด เมื่อคิดจะทำผิดกฎหมาย 

  • เจ้าของบัญชีม้า : ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
  • ผู้จัดหา/ผู้ว่าจ้าง : ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

โดยกรณีที่เจอบ่อยๆ คือ การว่าจ้างเปิดบัญชีกันตรงๆ โอนเงินให้ฟรีๆ ซึ่งมิจฉาชีพจะเข้ามาพูดคุยในช่องแชต หรือโทรมาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตีสนิทกับเรา หรืออ้างเป็นคนจากบริษัทที่มีชื่อเสียง พูดจาหว่านล้อมให้ผู้ที่ทำการรับสายนั้นเกิดความหลงเชื่อในสิ่งที่ได้ฟังไป และทำการช่วยเปิดบัญชีธนาคารโดยมีค่าตอบแทนโอนให้ฟรีๆ ครั้งละ 500 บาท เป็นต้น ซึ่งเมื่อเหยื่อเห็นว่าการรับจ้างแบบนี้ได้เงินจริง และได้มาง่ายๆ จะยิ่งตกเป็นเหยื่อคอยเปิดบัญชี รวมถึงชักชวนคนอื่นๆ มาด้วย 

“บัญชีม้า” ส่งผลกระทบกับเจ้าของ และเศรษฐกิจไทย มากกว่าที่คิด 

ข้อมูลจาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า หากเราปล่อยให้บุคคลอื่นนำบัญชีเราไปใช้งาน มีบัญชีเราอยู่ในมือ ก็สามารถนำไปทำเรื่องผิดกฎหมายได้หลากหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น

  1. นำไปใช้หลอกประชาชนในโลกออนไลน์ โดยจะให้เหยื่อทำการโอนเงินมายังบัญชีม้า เพื่อชำระค่าสินค้า หากหลงโอนไปให้ ทางมิจฉาชีพจะบล็อกการติดต่อเรา สูญเสียเงินไปฟรีๆ แถมไม่ได้สินค้าที่ตกลงกันไว้อีกด้วย
  2. นำไปใช้รับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ หลังจากระบบฝากเงิน ทางมิจฉาชีพจะโยกย้ายเงินเหล่านี้ส่งต่อไปยังเครือข่ายบัญชีม้าต่างๆ เพื่อไม่ให้สืบสาวค้นเจอปลายทางของเงินได้ง่ายๆ หากเว็บไซต์เหล่านั้นถูกจับเมื่อไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบเจ้าของบัญชีรับเงินก่อนทันที และทีนี้เจ้าของบัญชีตัวจริงจะติดร่างแหความผิดนี้ไปทันที
  3. นำไปใช้ฟอกเงินให้แก๊งมิจฉาชีพ เรื่องนี้ก็สร้างผลกระทบไม่ใช่น้อย เพราะเงินที่ได้จากการทำผิดกฎหมายจากมิจฉาชีพ จะถูกตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ง่าย 

สิ่งที่ตามมาและผลกระทบที่ใหญ่ขึ้นก็คือ ถ้ามิจฉาชีพใช้บัญชีม้าในการฟอกเงินสกปรกเหล่านี้ กลับเข้ามายังในระบบปกติ จะส่งผลทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจมีความผิดเพี้ยน เงินเข้ามาเยอะแต่ไม่มีการจ้างงาน หรือใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเงินผิดกฎหมายที่ถูกฟอกเข้ามาเยอะเกินไป จนผิดหลักความเป็นจริง อาจนำไปสู่สภาวะเงินเฟ้อ เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่จนประเทศชาติเสียหาย เห็นไหมว่าบัญชีม้าส่งผลร้ายแรงมากกว่าที่เราคิด

ตกเป็นเหยื่อเปิดบัญชีม้าไม่รู้ตัว จะแก้ไขอย่างไร? 


ทั้งนี้ ธนาคารกรุงศรีฯ ให้คำแนะนำไว้ว่า หากเราเผลอไปเป็นหนึ่งในกระบวนการของ “มิจฉาชีพ” และเปิดบัญชีม้าไปแล้ว มีแนวทางแก้ไข ดังนี้ 

  1. ให้เรารีบโทรไปแจ้งที่ศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคารที่เราได้ทำการเปิดบัญชีไว้ เพื่อทำการระงับบัญชีในทันที 
  2. หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเรียบร้อยแล้ว ให้เรารวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่มีทั้งช่องทางการสนทนา เช่น LINE หรือ Facebook ที่มีข้อความการแชตกับมิจฉาชีพ แล้วไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการแจ้งความบัญชีม้า ให้ข้อมูลอย่างละเอียด และส่งมอบหลักฐานเพื่อทำบันทึกประจำวัน หรือแจ้งความออนไลน์ ได้ที่ Thaipoliceonline.com

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

อุมาภรณ์ พิทักษ์

อุมาภรณ์ พิทักษ์
เศรษฐกิจ การเงิน ลงทุน และ อสังหาริมทรัพย์