กระทรวงพาณิชย์ อ้างอิง ข้อมูลจากบริษัทสำรวจทางการตลาดระดับโลก Euromonitor International มีการรายงานมูลค่า “ตลาดกาแฟไทย” ซึ่งพบว่า กาแฟ เป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น
ส่งผลให้เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา มูลค่าของตลาดกาแฟไทย ขยายตัวถึง 7.34% หรือราว 34,470 ล้านบาท ต่อเนื่องจากการเติบโตในห้วง 3 ปีก่อนหน้า ที่ขยายตัวเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 8%
เจาะภาพรวมกาแฟไทย ปัจจุบัน ไทยแบ่งตลาดกาแฟ ออกเป็น 2 ตลาดใหญ่ๆ ได้แก่
อย่างไรก็ตาม แม้ สภาพอากาศร้อน ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ความต้องการกาแฟเย็นจากร้านสะดวกซื้อ กาแฟสำเร็จรูปแบบ RTD (Ready To Drink) และกาแฟบรรจุขวดพร้อมทาน เติบโตอย่างต่อเนื่อง
แต่พบว่า ตลาดกาแฟสด มีการเติบโตอย่างน่าสนใจ เพิ่มสัดส่วนขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย จากความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มวัยทำงาน ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน และกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบและดื่มด่ำกับบรรยากาศในการดื่มกาแฟสด ที่ได้เห็นความพิถีพิถันในการชงกาแฟ
ส่งผลให้ยอดนำเข้ากาแฟจากต่างประเทศของไทยแต่ละปีมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นๆ
โดยในปี 2566 ไทยมีมูลค่าการนำเข้ากาแฟ 338.42 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 12.90% แบ่งเป็นการนำเข้า
โดยไทยนำเข้าเมล็ดกาแฟดิบจากเวียดนามมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ อินโดนีเซีย และ สปป.ลาว สำหรับในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. – มี.ค.) ไทยมีมูลค่าการนำเข้ากาแฟ 76.3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย กาแฟดิบ เป็นอันดับ 1
ในแง่การส่งออกนั้น จากการที่ปัจจุบัน ไทยมีผลผลิตกาแฟมากกว่าปีละ 16,000 ตัน ครอบคลุม สายพันธุ์อาราบิกา และ โรบัสตา จึงสามารถส่งออกได้ต่อเนื่อง
ซึ่ง 3 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกไปแล้วมากกว่า 34 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกกาแฟสำเร็จรูปอันดับหนึ่งของไทย คือ กัมพูชา รองลงมา ได้แก่ สปป.ลาว และฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังชี้ว่า ตลาดกาแฟของไทย ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริโภคในประเทศ และการแปรรูปเพื่อส่งออก เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการแปรรูปกาแฟดิบเป็นกาแฟสำเร็จรูป ผู้ประกอบการต้องเร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยเฉพาะ เทรนด์ผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสุขภาพและความยั่งยืนมากขึ้น
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney