7 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จีน โชว์แผนธุรกิจ ดึงผู้ผลิตชิ้นส่วน เข้าสู่ Supply Chain ปั้นฮับ EV อาเซียน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

7 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จีน โชว์แผนธุรกิจ ดึงผู้ผลิตชิ้นส่วน เข้าสู่ Supply Chain ปั้นฮับ EV อาเซียน

Date Time: 17 พ.ค. 2567 13:11 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • BOI เปิดเวที โชว์วิสัยทัศน์ และ แผนลงทุนของ 7 ค่ายรถยนต์ชั้นนำของจีน BYD, MG, Great Wall Motor, NETA, Changan, GAC Aion และ Omoda & Jaecoo ประกาศ ปั้นไทยสู่ฮับ EV อาเซียน ดึงผู้ผลิตไทย สู่ Supply Chain มองอนาคต ใช้ชิ้นส่วนของไทย ถึง 90%

Latest


ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์จากจีนที่ได้เริ่มผลิตอีวีในประเทศไทยแล้วมี 3 ราย ได้แก่ GWM, NETA และ MG ส่วน BYD และ GAC Aion มีแผนเริ่มผลิตในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ และ Changan จะเริ่มผลิตในช่วงต้นปี 2568

ประเด็นดังกล่าว BOI “นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์” เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ชี้ว่า จะทำให้ความต้องการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศจะทยอยเพิ่มสูงขึ้น 

ล่าสุดได้เปิดเวที “BOI Symposium : EV Supply Chain Edition” รวมตัวของ 7 ค่ายรถยนต์ชั้นนำของจีน เป็นครั้งแรกในไทย ได้แก่ BYD, MG, Great Wall Motor, NETA, Changan, GAC Aion และ Omoda & Jaecoo ให้มา ร่วมแสดงวิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงแผนการจัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนในประเทศ พร้อมยกระดับผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Supply Chain ของโลก

มองนี่จะเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศจะได้รับฟังทิศทางการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและแผนการจัดซื้อชิ้นส่วนโดยตรงจากผู้บริหารค่ายรถยนต์ สร้างโอกาสการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างกัน ภายใต้คาดการณ์ ว่าจะมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศสูงสุดถึง 90% เพื่อให้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกที่สำคัญของโลกในอนาคต

7 ค่ายรถจีน ชูไทย เป็นฐานผลิต รถ EV 

  • “หม่า ไห่หยาง” แห่ง GAC AION ระบุ ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ซึ่งจะมีการลงทุนในส่วนโรงงานผลิต รวมทั้งจัดจำหน่ายในไทยและต่างประเทศ โดยจะร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
  • “หยู่ปิน เคอ” ผู้จัดการทั่วไป BYD เผยว่า โรงงานบีวายดีเตรียมใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 40% จากผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายรายในประเทศไทย และมีแผนการจัดซื้อเพิ่มขึ้นทุกปี ในอนาคตจะยกระดับการผลิตและพัฒนาชิ้นส่วนในประเทศให้เป็น "Made in Thailand" 
  • “นายเซิน ซิงหัว” ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) ระบุ ฉางอานต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางในอาเซียน ทั้งการผลิต ขาย รวมถึงการวิจัยและพัฒนา โดยจะมีการลงทุนราว 10,000 ล้านบาท บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มผลิตรถยนต์ได้ในไตรมาสแรกของปี 2568 มีกำลังการผลิตมากกว่า 100,000 คัน โดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศถึง 60% และมีโอกาสที่จะเพิ่มไปถึง 90% 
  • “ไมเคิล ฉง” แห่ง GWM กล่าว ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตที่ จ.ระยอง แล้วกว่า 12,500 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 22,500 ล้านบาท คาดจะเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 80-90% ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
  • “ชู กังจื้อ” บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า เนต้า ปีนี้โรงงานเนต้าในประเทศไทยจะเริ่มเดินเครื่อง โดยตั้งเป้า การใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากเป็น 85% จากความพร้อมของ Supply Chain ที่แข็งแกร่งในประเทศไทย เชื่อว่าทั้งจีนและไทยจะประสบความสำเร็จร่วมกันในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก
  • “ฉี เจี๋ย” จาก โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) เผย บริษัทมีโรงงานผลิตรวม 10 แห่งทั่วโลก โดยรถยนต์ของบริษัทมีการส่งออกไปยัง 80 ประเทศทั่วโลก และไทยจะเป็นฐานผลิตหลักในอาเซียน 
  •  “สุโรจน์ แสงสนิท” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์ MG กล่าวว่า สำหรับแบรนด์ MG ได้เข้ามาทำตลาดในไทยปีนี้เป็นปีที่ 11 มีการผลิตรถยนต์หลากหลายรุ่น รวมยอดขายสะสม 225,000 คันในประเทศไทย โดยบริษัทได้ใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ และร่วมมือกับ Supplier ไทย ในการพัฒนานวัตกรรม รวมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่านโยบายสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทย และสามารถเพิ่มโอกาสในการเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลก

ทั้งนี้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบ บีโอไอ ได้ให้สิทธิประโยชน์ครอบคลุมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกเซกเมนต์ และชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ รวมทั้งแบตเตอรี่ และสถานีชาร์จ รวมเงินลงทุนกว่า 80,000 ล้านบาท มีโครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ (BEV) 18 โครงการ เงินลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารวม 400,000 คัน

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่ 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์