แฉจีนใช้เล่ห์ซ้ำซากไล่ทุบเหล็กไทย กูรูกฎหมาย-10 สมาคมหนุนรัฐใช้มาตรการตอบโต้หลบเลี่ยง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

แฉจีนใช้เล่ห์ซ้ำซากไล่ทุบเหล็กไทย กูรูกฎหมาย-10 สมาคมหนุนรัฐใช้มาตรการตอบโต้หลบเลี่ยง

Date Time: 17 พ.ค. 2567 07:01 น.

Summary

  • แฉผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยจากจีนใช้เล่ห์ซ้ำซาก หลบเลี่ยงไม่จ่ายอากร AD สร้างความเสียหายกับอุตสาหกรรมเหล็กของไทย นักวิชาการและ 10 สมาคมเหล็กหนุนบังคับใช้มาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้าเคสแรกของไทย

Latest

ฟื้นเฟสใหม่ “เราเที่ยวด้วยกัน” “สรวงศ์” สั่ง ททท.ชงโครงการเสนอนายกฯอิ๊งค์

ศาสตราจารย์ทัชมัย ฤกษะสุต อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายธุรกิจ กฎหมายเศรษฐกิจ และกฎหมายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ให้ความเห็นต่อร่างผลการไต่สวนการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด หรือที่เรียกกันว่ามาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า (Anti-Circumvention : AC) กรณีสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยจากประเทศจีนว่า จากข้อมูลและข้อเท็จจริงที่กรมการค้าต่างประเทศใช้ในการไต่สวนและได้เผยแพร่ในเว็บไซต์กรมฯ ว่ามีความครบถ้วนตรงตามหลักการของการใช้มาตรการ AC และเป็นไปตาม พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและอุดหนุน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมใน พ.ศ. 2562

เนื่องจากมีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่าสินค้าเหล็กเจืออัลลอย มีการส่งออกจากจีนเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่มีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping : AD) และมีข้อมูลทางเทคนิคว่าเหล็กเจืออัลลอยเป็นสินค้าที่มีการแก้ไขดัดแปลงเพียงเล็กน้อยโดยไม่มีผลต่อลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้ารวมถึงมีการทุ่มตลาดด้วย ซึ่งจากการที่ศาสตราจารย์ทัชมัย ได้ทำวิจัยในปี 2562-2563 เรื่องการใช้มาตรการ AC ของสหภาพยุโรป ที่เป็นประเทศต้นแบบของมาตรการ AD และ AC ของไทยพบว่า มีหลักการและแนวทางการใช้มาตรการที่สอดคล้องกัน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะมีมาตรการทางการค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากต่างประเทศ

เพราะในช่วงที่ผ่านมาถึงแม้จะมีการใช้มาตรการ AD หลายมาตรการ แต่อาจจะมีประสิทธิภาพการบังคับใช้ไม่เต็มที่ เนื่องจากมีการหลบเลี่ยงในหลายรูปแบบ ซึ่งหากประเทศไทยมีกฎหมาย AC ที่ช่วยอุดช่องว่างนี้แล้ว เชื่อว่าประสิทธิภาพการใช้มาตรการทางการค้าของไทยจะมีมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถอยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม

ด้านนายนาวา จันทนสุรคน หนึ่งในแกนนำ 10 สมาคมผู้ประกอบอุตสาหกรรมเหล็ก กล่าวว่าประเทศจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของไทย โดยในปี 2566 มีสินค้าจีนส่งมายังไทยรวมมูลค่ามากถึง 2,472,785 ล้านบาท และไทยขาดดุลการค้ากับจีน 1,295,895 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เหล็กเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่จีนส่งออกมายังไทยปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่กลางปี 2564 เป็นต้นมา ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนประสบปัญหาชะลอตัวและหนี้เสีย จนความต้องการใช้เหล็กภายในประเทศจีนถดถอย สวนทางกับผู้ผลิตเหล็กในจีนที่ยังคงใช้กำลังการผลิตเหล็กออกมาในจำนวนมาก ทำให้จีนต้องเร่งส่งออกสินค้าเหล็กไปทั่วโลกมากขึ้น ทั้งนี้ ในหลายภูมิภาคของโลกได้มีการใช้มาตรการทางการค้าเพื่อสกัดกั้นสินค้าเหล็กจากจีน

ขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับการไหลทะลักของสินค้าเหล็กจีนเข้ามาจำนวนมาก โดยปี 2566 มีมูลค่านำเข้าสูงถึง 1.36 แสนล้านบาท ปริมาณรวม 4.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 24% จากปี 2565 และกรณีสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยจากจีนที่อยู่ระหว่างการไต่สวนการหลบเลี่ยง (AC) โดยคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีปริมาณนำเข้าปี 2566 รวม 568,184 ตัน เพิ่มขึ้น 23% ซึ่งการหลบเลี่ยงดังกล่าวบั่นทอนการบังคับใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้จากอากรทุ่มตลาดและอากรนำเข้ามากกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี โดยหากปล่อยให้สินค้าเหล็กจีนดังกล่าวยังทะลักเข้ามายังประเทศไทย อาจส่งผลให้อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดร้อนภายในประเทศไทยอาจต้องปิดตัวลง กระทบการจ้างงานทั้งทางตรงและต่อเนื่องร่วมหมื่นคน อีกทั้งเสียการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและการสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศมูลค่ามหาศาล ดังนั้น 10 สมาคมเหล็กจึงสนับสนุนคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน ที่จะได้บังคับใช้มาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยง (AC) กับสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยจากจีนเป็นกรณีนำร่องของประเทศไทย.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ