นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า เงื่อนไขการใช้จ่ายเงินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ขณะนี้ยังเหมือนเดิม โดยประชาชนที่ได้รับสิทธิสามารถนำไปซื้อสินค้าบริโภคและอุปโภค ยกเว้นสินค้าบริการไม่สามารถใช้ได้ รวมถึงสินค้า 16 รายการต้องห้ามใช้ด้วย
“ยืนยันว่าขณะนี้สามารถใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ต ซื้อได้ เพราะไม่ได้อยู่ในกลุ่มสินค้าต้องห้าม ตอนนี้ยังไม่มีการคุยถึงการเพิ่มรายการสินค้าต้องห้ามเข้ามาใหม่ ซึ่งในส่วนการซื้อสินค้าที่มาจากการนำเข้า หลักการยังซื้อได้เหมือนเดิม ไม่ได้กำหนดข้อห้าม เพราะสินค้านำเข้าหลายรายการก็เป็นสิ่งของจำเป็น รวมถึงโทรศัพท์มือถือก็ยังซื้อได้ และหากยังไม่มีประกาศรายการใหม่เข้ามาก็ยังยึดรายการสินค้าตามเดิมที่อนุมัติจาก ครม. ส่วนบริการร้านตัดผม ร้านนวด จัดอยู่ในกลุ่มบริการ ไม่สามารถใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ตซื้อได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบกรอบหลักการไปแล้ว มีดังนี้ การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า ให้ใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ 878 อำเภอ การชำระเงินต้องเป็นแบบพบหน้า กำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็ก ที่รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก
ส่วนกรณีการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ร้านค้าที่จะรับการใช้จ่ายจากประชาชนต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กโดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ส่วนร้านค้าที่สามารถรับการใช้จ่ายจากร้านค้า ไม่มีการกำหนดเงื่อนไขเชิงพื้นที่และขนาดร้านค้า
สำหรับประเภทสินค้าที่ใช้เงินดิจิทัล วอลเล็ต ซื้อได้ เป็นสินค้าทุกประเภท ยกเว้นสินค้า 16 รายการ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ บริการต่างๆ เช่น ร้านทำผม ร้านนวด ร้านเสริมสวยไม่สามารถเข้าร่วมได้ และในอนาคตอาจเพิ่มรายการใหม่ๆอีกได้.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่