อย่ากังวล ค่าแรง 400 บาท ไม่ได้ขึ้นแบบกระชาก ...
นี่คือคำยืนยันจากตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะปรับขึ้น “ค่าแรงขั้นต่ำ” วันละ 400 บาท เท่ากันทั่วประเทศ โดยคาดจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 เป็นต้นไป ขณะกระทรวงแรงงานมั่นใจ การขึ้นค่าแรง 400 บาท แรงงานไทยจะได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะแรงงานไร้ฝีมือ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นการขึ้นค่าจ้างใหม่ ปี 2567 ยังเป็นข้อถกเถียงที่ต้องหารือกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ภายใต้การพูดคุยกันของอนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและบอร์ดไตรภาคี
เนื่องจากขณะนี้ เอกชน 46 กลุ่มอุตสาหกรรม ภายใต้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ย้ำจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยกับค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ เนื่องจากกังวลผลกระทบ ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจขยายตัวได้ไม่เกิน 2.7% ต้นทุนผู้ประกอบการอ่วม ทั้งค่าแรงและค่าพลังงาน จนอาจซ้ำเติม ค่าครองชีพผู้บริโภค ในยุคที่กำลังซื้อเปราะบาง น่าห่วงอยู่ก่อนแล้ว
สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่า เงินเฟ้อทั่วไปของไทยในช่วงที่เหลือของปี 2567 มีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่อง นอกจากราคาพลังงานในประเทศที่คาดว่าจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น และราคาสินค้าเกษตรอาจตึงตัวจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก
อีกทั้งหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในเดือน ต.ค. 67 ก็จะยิ่งส่งผลให้เงินเฟ้อไทยในปี 2567 ปรับสูงขึ้นจาก 0.8% ที่มีการคาดไว้เดิม
จากประเด็นดังกล่าว Thairath Money ชวนเปิดงานวิจัย : ผลจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั้งแง่บวกและแง่ลบ ต่อแรงงาน, จีดีพี และเงินเฟ้อ ซึ่งจัดทำโดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในมิติต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพนโยบายดังกล่าว และผลที่จะเกิดอย่างชัดเจนขึ้น
เชิงบวก
เชิงลบ
เชิงบวก
เชิงลบ
ทั้งนี้ เมื่อแรงงานมีรายได้เพิ่มมากขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะนำไปใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และ เมื่อการบริโภคในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นก็จะมีผลทำให้การผลิตและการจ้างงานขยายตัวตามมา
แต่ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องติดตามก็คือ เมื่อธุรกิจมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นราคาสินค้า และเมื่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้นก็จะมีผลทำให้ความต้องการลดลง ซึ่งท้ายที่สุด ความต้องการลดลงก็จะมีผลทำให้การผลิตและการจ้างงานลดลงในอนาคตด้วย
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney